คาดราคาหมูอาจปรับขึ้นถึง ก.ก.ละ 200 บาทใน ก.ย.นี้
กระทรวงพาณิชย์เตรียมเปิดเว็บไซต์แนะนำอาหารสำเร็จรูป พร้อมจัดงานลดค่าครองชีพให้กับประชาชนเนื่องในวันพาณิชย์ ขณะที่สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติระบุกลไกการแก้ปัญหาด้วยการคุมราคาเป็นการแก้ปัญหาที่ผิดทาง
สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติเปิดเผยว่า ภายในเดือน ก.ย.54 นี้ ราคาหมูเนื้อแดงขายปลีกอาจจะขยับขึ้นไปสูงสุดที่กิโลกรัมละ 200 บาท เนื่องจากแม่พันธุ์ขาดแคลนหนัก ทำให้การผลิตลูกสุกรและหมูขุนลดลงร้อยละ 25-30 สวนทางกับความต้องการของผู้บริโภค
สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติเห็นว่า แนวทางการแก้ปัญหาของกระทรวงพาณิชย์ตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา ไม่ถูกวิธี เพราะแทนที่จะหาทางช่วยผู้ประกอบการในการเพิ่มแม่พันธุ์หมูที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด แต่กลับไปมุ่งควบคุมราคาขาย ทั้งที่ต้นทุนสูงขึ้น อีกทั้งสินค้ามีไม่พอ ถึงแม้จะประกาศให้ขายในราคาแนะนำ หรือควบคุม ก็ไม่มีผู้ประกอบการรายใดทำได้ เป็นผลให้ราคาหมูสูงอย่างต่อเนื่อง จนถึงเกือบกิโลกรัมละ 180 บาทแล้ว
ส่วนบรรยากาศขายเนื้อหมูตามเขียงหมูต่างๆ ทั่วประเทศซบเซา ประชาชนหันไปบริโภคเนื้อสัตว์ชนิดอื่นแทน แม้ว่ากระทรวงพาณิชย์กำหนดมาตรการควบคุมราคาแทนการประกาศราคาแนะนำ โดยกำหนดให้หมูหน้าเขียงขายไม่เกินกิโลกรัมละ 152 บาท ภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือบวกเพิ่ม 5 บาท ส่วนภาคใต้บวก 10 บาท หากผู้ค้าฝ่าฝืนมีโทษปรับ 500,000 บาท จำคุก 1 ปี ซึ่งแม้จะมีการควบคุมราคาแล้ว แต่ต้องถือว่า ขณะนี้หมูมีราคาสูงกว่าปกติมาก
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการที่ผู้บริโภคประสบปัญหาอาหารสำเร็จรูปมีราคาแพง ทางกรมฯ เตรียมเปิดตัวเว็บไซต์สำหรับกลุ่มอาหารสำเร็จรูป เพื่อเปิดเผยข้อมูลอาหารสำเร็จรูปทั้งหมด เช่น ราคาอาหารสำเร็จรูปที่มีราคาแพง ราคาไม่แพง สถานที่-ร้านจำหน่ายอาหารสำเร็จรูป โดยเชื่อว่าจะเป็นข้อมูลที่ผู้บริโภคควรรู้ และข้อมูลทั้งหมดจะเสนอด้วยความโปร่งใส เชื่อถือได้ อย่างไรก็ตาม เตรียมที่จะเปิดตัวเว็บไซต์เร็วๆ นี้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งนำข้อมูลที่มีป้อนลงเว็บไซต์ โดยผู้บริโภคสามารถสอบถาม หรือร้องเรียนเรื่องผ่านเว็บไซต์นี้ได้ด้วย
นอกจากนี้ กรมการค้าภายในยังเตรียมจับมือผู้ประกอบการในปั๊มน้ำมันและร้านสะดวกซื้อ จัดทำอาหารปรุงสำเร็จราคาธงฟ้า 25-30 บาท เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคซื้ออาหารปรุงสำเร็จราคาถูก และขยายความร่วมมือไปยังตลาดสด หรือออฟฟิศอื่นๆ เพื่อจัดทำเมนูทางเลือกให้กับประชาชนผู้บริโภค ผู้ที่มีรายได้น้อย ให้เข้าถึงอาหารปรุงสำเร็จราคาถูก
และเนื่องในวันพาณิชย์ ซึ่งเป็นวันสถาปนากระทรวงพาณิชย์ครบรอบ 91 ปี ในวันที่ 20 ส.ค. กรมการค้าภายใน ร่วมกับห้างค้าปลีกค้าส่ง ห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อ จัดกิจกรรมลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภคมากกว่า 6,000 รายการ ถึงร้อยละ 10-70 หรือซื้อ 1 แถม 1 หรือซื้อ 2 แถม 1 เช่น ข้าวสาร อาหารสด เครื่องปรุงรส เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าของใช้ในครัวเรือน ตั้งแต่วันที่ 19-21 ส.ค.54 โดยแต่ละห้างจะติดป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบว่าได้ร่วมกันลดราคาสินค้าในช่วงเวลาดังกล่าว
ขณะเดียวกันจะมีการจัดงานจำหน่ายสินค้าราคาพิเศษระหว่างวันที่ 15-17 ส.ค. นี้ ตั้งแต่เวลา 8.30-17.00 น. ณ ลานอเนกประสงค์ ชั้น 3 กระทรวงพาณิชย์ โดยจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าธงฟ้า สินค้าแฟรนไชน์ สินค้าโอท็อป จำนวนกว่า 200 คูหา อาทิ เนื้อหมู ไข่ไก่ น้ำตาลทราย น้ำมันพืช ซึ่งมีราคาถูกกว่าท้องตลาดร้อยละ 20-40 เพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน