วานนี้ ( 22 พ.ค.61) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว แถลงผลการจับกุม นายไพจิตร์ สายยา อาชีพขับแท็กซี่ หลังสืบสวนพบการใช้ไลน์ ใช้รูปโปรไฟล์แอบอ้างเป็น พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หลอกลวงตำรวจให้หลงเชื่อว่า สามารถช่วยโยกย้ายตำแหน่ง โดยมีตำรวจภูธรภาค 4 หลงเชื่อ 6 นาย ตั้งแต่ตำแหน่งรองผู้บังคับการ ถึงผู้บังคับหมู่ จ่ายเงินให้ผู้ต้องหารวมกว่า 4 ล้านบาท
สอบสวนทราบว่าก่อเหตุตั้งแต่ปี 2559 ผู้ต้องหาแอบอ้าง และตีสนิท พ.ต.ท.พงษ์อนันต์ ชุบรัมย์ สารวัตรสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม และหลอกให้เป็นตัวแทนรับโอนเงินจากผู้เสียหาย ส่วนเงินที่ได้นำไปซื้อที่ดินและรถแท็กซี่มาปล่อยเช่า
ก่อนที่วาระโยกย้ายปี 2560 มีตำรวจที่จ่ายเงินแต่ไม่ได้โยกย้ายตำแหน่ง 5 นาย ทั้งหมดจึงเข้าแจ้งความก่อนจะตามจับได้ ซึ่ง พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ระบุ ทั้งคนขับแท็กซี่และตำรวจที่ร่วมซื้อขายตำแหน่ง ล้วนต้องถูกดำเนินคดี
เบื้องต้น มอบหมายทนายความ ไปแจ้งความเอาผิดนายไพจิตร ข้อหาความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จตามมาตรา 14 ปลอมแปลงข้อมูลไปสร้างความเสียหาย ส่วนตำรวจทั้ง 6 นาย ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เตรียมตั้งคณะกรรมการเอาผิดทางวินัย มีโทษถึงให้ออกจากราชการ พร้อมยืนยัน ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายตำแหน่ง และต้องทำงานแลกมาเท่านั้น
ขณะที่ พ.ต.ท.พงษ์อนันต์ ระบุ นายไพจิตร โทรศัพท์มาอ้างเป็น พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ด้วยน้ำเสียงและจังหวะการพูด คล้ายกับที่เคยเห็น พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ให้สัมภาษณ์ตามสื่อต่างๆ จึงหลงเชื่อคิดว่าเป็นตัวจริง พร้อมกล่าวขออภัย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ที่ทำให้เสียหาย