วันนี้ (1 ก.ค.2561) ผศ.วิวัฒน์ชัย กุลมาตย์ อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหน้าภาควิชาจิตวิทยา มหาวิทยาลัยรามคำแหง อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ผู้ทรงคุณวุฒิจัดทำแผนยุทธศาสตร์ปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.).ตั้งข้อสังเกตเงื่อนงำการเสียชีวิตของ นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อดีตปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่กินยาตายพร้อมกับ น.ส.วาสนา ตะเภาพงศ์ เมื่อวันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน 2561 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุ ภายในหมู่บ้านชื่อดัง หมู่ที่ 8 ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี ตามข่าวที่เสนอ นั้น
ผศ.วิวัฒน์ชัย เปิดเผยว่า ทราบว่ามีผู้ร้องไปที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ให้ตรวจสอบและอายัดทรัพย์สิน น.ส.วาสนา ตะเภาพงศ์ อดีตข้าราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่ลาออกจากราชการ และมีความใกล้ชิดเป็นพิเศษกับนายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งอธิบดี ต่อมา ปปง.ได้ดำเนินการอายัดทรัพย์สินที่คาดว่าเป็นการฟอกเงินจากการทุจริตเงินคนไร้ที่พึ่ง มูลค่าเกือบ 88 ล้านบาท โดยเบื้องต้นทราบว่า มีรถปอร์เช่ 3 คัน รถเบนซ์ 2 คัน มินิคูเปอร์ และอื่นๆ รายการรถหรูมูลค่าประมาณ 35 ล้านบาท นอกจากนี้ คอนโดหรูอีก 5 ห้อง มูลค่า 24 ล้านบาท และอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ รวมทั้งบ้านที่ก่อเหตุกำลังตรวจสอบ
นอกจากนี้ ทราบว่า เมื่อเร็วนี้ ปปง.ได้อายัดเงินบัญชีเพิ่มเติมอีก 20 ล้านบาท แต่ยังไม่ปรากฏเป็นข่าว อยู่ในระหว่างให้นายพุฒิพัฒน์ และ น.ส.วาสนา ชี้แจงข้อกล่าวหา นายพุฒิพัฒน์ได้เสียชีวิตไปแล้ว แต่ทรัพย์สินที่อายัด เป็นชื่อของ น.ส.วาสนา ตะเภาพงศ์ เนื่องจากคดีนี้ทรัพย์สินมาก คาดว่าจำนวนสูงกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบอาจพบและอายัดเพิ่มเติม ดังนั้น ในฐานะที่ตนเป็นผู้มีประสบการณ์เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาโดยเฉพาะอาชญาจิตวิทยา จึงอาจมีหลายเหตุผลหลายองค์ประกอบด้วยกัน หากนายพุฒิพัฒน์มีชีวิตอยู่ อาจรับสารภาพก็มีความเสี่ยง ทำให้ถูกยึดทรัพย์ได้เช่นกัน
ผศ.วิวัฒน์ชัย กุลมาตย์
ผศ.วิวัฒน์ชัย กุลมาตย์
สำหรับการเสียชีวิตมีเงื่อนงำ เจ้าพนักงานตำรวจควรดำเนินการพิสูจน์ทางคดีเป็นที่กระจ่างทางสังคม ศพนายพุฒิพัฒน์ มีการเร่งรีบดำเนินการฌาปนกิจผิดสังเกต และ สภ.เมืองปทุมธานี ได้รู้ข้อมูลทรัพย์สินที่มีชื่อ น.ส.วาสนา ตะเภาพงศ์ ตามที่ ปปง.อายัดไว้หรือไม่ ประกอบกับตามข่าวที่มีการนำเสนอ ช่วงวันที่ได้รับแจ้งเหตุ เจ้าพนักงานตำรวจ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ไปยังที่เกิดเหตุ พบนายพุฒิพัฒน์เสียชีวิตไปหลายชั่วโมงแล้ว แต่ น.ส.วาสนา ล้างท้องทัน หากกินยาพร้อมกันประสงค์ตายพร้อมกันก็ไม่น่าจะล้างท้องทัน ที่สำคัญคดีนี้ยังไม่มีการสอบปากคำ น.ส.วาสนา ซึ่งพ้นขีดอันตรายแล้ว โดยเฉพาะช่วงเวลากินยา ใครเป็นฝ่ายวางยา แก้วน้ำมีคราบยา ดีเอ็นเอ หรือไม่
ผศ.วิวัฒน์ชัย กล่าวว่า ภาพที่ปรากฏตามข่าว แก้วน้ำไวน์ นายพุฒิพัฒน์ เหลือไวน์ครึ่งแก้ว แต่เสียชีวิต อีกแก้วย่อมเป็นของ น.ส.วาสนา ซึ่งทานหมดแก้ว แต่ไม่เสียชีวิต และล้างท้องทัน รวมทั้งมีขวดน้ำเต้าหู้ตั้งอยู่ ดังนั้น ควรมีการตรวจสอบว่าเป็นการฆาตกรรมอำพรางหรือไม่ การล่อหลอกให้ฆ่าตัวตายพร้อมกันหรือไม่ จึงควรดำเนินการอายัดศพไว้ก่อน ซึ่ง น.ส.วาสนา ตะเภาพงศ์ ต้องให้การกระจ่างแก่เรื่องนี้ และทรัพย์สินที่มากมหาศาลจะทำอย่างไร บอกที่มาที่ไปได้ไหม ทั้งที่ก็เป็นข้าราชการเหมือนกัน จะส่งคืนต่อแผ่นดินหรือไม่ ที่สำคัญจดหมายที่สั่งเสีย พินัยกรรมมรดกให้แก่ญาติเหล่านั้น อยู่ในบัญชีทรัพย์สิน ป.ป.ช.หรือไม่
ทั้งนี้ ควรตรวจสอบการคืนศพไปยังญาติ และการที่ญาติเร่งรีบเผาศพ โดยอ้างว่าเป็นการสั่งเสียของนายพุฒิพัฒน์ โดยให้ทำพิธีฌาปนกิจศพที่วัดพรมวงศาราม ซึ่งอยู่ใกล้บ้าน น.ส.วาสนา ตะเภาพงศ์ ในวันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม 2561 เวลา 17.00 น. ทั้งที่เหตุเกิดวันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน 2561 สวดวันเสาร์และวันอาทิตย์เพียง 2 วัน โดยมีข่าวที่แสดงให้เห็นความผิดปกติ สื่อมวลชนได้ถามการไม่นำศพไปสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ที่สำคัญการดำเนินคดีควรอายัดศพเพื่อพิสูจน์ต่างๆ ให้ครอบคลุม โดยเฉพาะยังไม่มีการสอบปากคำ น.ส.วาสนา ตะเภาพงศ์ แต่จะฌาปนกิจศพแล้ว
ทั้งนี้ ผศ.วิวัฒน์ชัย กุลมาตย์ แนบภาพข่าวมาด้วยแก่สื่อมวลชน และหลักฐานอ้างอิงให้ติดตามเรื่องนี้ด้วย การแสดงความเห็นครั้งนี้ เพื่อหวังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันสร้างบรรทัดฐานการปฏิบัติหน้าที่กรณีเช่นนี้ ดำเนินการเอาทรัพย์สินจากการทุจริตคืนให้กับแผ่นดิน ผู้ร่วมกระทำผิดอาจคิดว่าใช้ช่องทางกฎหมายยกประโยชน์ฐานสงสัย ทรัพย์สินไม่ถูกอายัด และไม่สามารถเอาทรัพย์คืนกับแผ่นดินได้ คดีนี้เป็นคดีสำคัญเป็นตัวอย่างการสอนข้าราชการให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างมีจริยธรรม การหาผลประโยชน์จากผู้ยากจนประสบกับความเดือดร้อน ซึ่งอาจมองว่าเป็นเหยื่อหาประโยชน์ได้ง่าย ไม่มีการศึกษา แต่เมื่อมีการตรวจสอบพบผู้กระทำผิดได้รับการประณามอย่างรุนแรงไม่มีที่ยืนทางสังคม ทรัพย์ที่ได้มาก็ไม่สามารถทำให้มีความสุขได้เกียรติยศชื่อเสียงหมดไป จึงขอให้ครอบครัวและเครือญาติเข้าใจเหตุผลนี้
สำหรับการจัดสรรงบประมาณไปยังหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งการจัดซื้อผ้าห่ม ผู้ที่อนุมัติคืออธิบดี การตรวจสอบผู้เกี่ยวข้องในกระบวนการทั้งหมด ทุกคนบรรลุนิติภาวะแล้ว จึงขอให้ญาติ ลูกน้องที่สนิทเข้าใจองค์กรตรวจสอบที่ปฏิบัติตามหน้าที่ด้วย และควรให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ ผศ.วิวัฒน์ชัย กุลมาตย์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อไทยพีบีเอส และขอให้สื่อมวลชนส่งข่าวให้ถึง สภ.ปทุมธานี หรือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและรัฐบาลด้วย เนื่องจากจะมีการเผาศพ นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ในวันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคมนี้แล้ว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
รมว.พม.ยืนยัน อดีตปลัดพม.เสียชีวิตจริง คาดเครียดถูกสอบทุจริตคนไร้ที่พึ่ง
อดีตปลัดพม.กินยาฆ่าตัวตาย พร้อมภรรยา
ปปง.ยึดทรัพย์ "อดีตบิ๊ก พม." 88 ล้าน คดีทุจริตเงินคนไร้ที่พึ่ง