วันนี้(19 ก.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทนายความเดชา กิตติวิทยานันท์ ไลฟ์ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก ทนายคลายทุกข์ กล่าวถึงกรณีที่นางลีน่า จังจรรจา เข้าแจ้งความที่กองปราบปราม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายเอกพล จันทะวงษ์ หรือ โค้ชเอก ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี กรณีนำเด็กและเยาวชนเข้าถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางเจ้าหน้าที่อุทยาน
โดยทนายเดชา ระบุว่า การติดถ้ำของทีมหมูป่า ต้องดูที่เจตนาว่าทีมหมูป่า มีเจตนาเข้าไปในที่หวงห้าม คือ ถ้ำหลวง หรือไม่ หรือว่าเป็นกรณีที่มีความจำเป็น เช่น มีน้ำท่วม จำเป็นต้องหนีน้ำเพื่อเอาตัวรอด การกระทำความผิดด้วยความจำเป็น ไม่ต้องรับโทษอยู่แล้วตามกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 67 ทั้งนี้ ยังระบุด้วยว่า นางลีน่าจัง เป็นทนายความย่อมรู้กฎหมายดีหากไปแจ้งความเท็จ ก็จะถูกดำเนินคดีข้อหาแจ้งความเท็จ ต่อเจ้าพนักงานเพื่อแกล้งให้บุคคลอื่นได้รับโทษทางอาญามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 174 จำคุกไม่เกิน 5 ปีและปรับ
ผมดูจากคลิปแล้วพบว่ามีเด็กและเยาวชนต่ำกว่าอายุ 18 ปี ซึ่งตามพ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก หากนำเด็กเอาไปเต้นในเขตหวงห้ามเขตกรมอุทยาน ดังนั้นเท่ากับ ลีน่า จัง เอาเด็กและเยาวชนไปร่วมกระทำความผิดกฎหมาย มาตรา 26 (3) ถ้าผู้ใดกระทำการดังต่อไปนี้ไปส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่เหมาะสมมีบทลงโทษ ตามมาตรา 78 มีโทษจำคุก 3 เดือนปรับ 3 หมื่นบาท
นอกจากนี้ยังต้องดูว่าเด็กที่จ้างมาเต้นไปล้อเลียนเด็กด้วยกัน และพฤติกรรมเสี่ยงการทำผิดกฎหมายอุทยาน ดังนั้นนอกจากจะถูกแจ้งข้อหาเข้าพ.ร.บ.อุทยานฯแล้ว ยังจะต้องแจ้งข้อหาลีน่า เพิ่มในกฎหมายเด็ก รวมทั้งการเอาคลิปไปโฆษณาทางสื่อ เห็นหน้าตาเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ เป็นกระทำที่ไม่ชอบ และนำมาโพสต์ทางเฟชบุ๊ก จะมีโทษตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก มาตรา 27 โทษจำคุกอีก 6 เดือนปรับ 6 หมื่นบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีนี้เกิดจากนางลีน่า จัง อัดคลิปและเผยแพร่ในโซเชียล จำลองเหตุการณ์ว่า นางลีน่า จัง และกลุ่มเยาวชน กำลังติดถ้ำพร้อมตะโกนขอความช่วยเหลือ ล้อเลียนทีมหมูป่า
อ่านข่าวเพิ่มเติม
แจ้งจับ “ลีน่า จัง” แอบเข้าถ้ำพระยานคร ทำคลิปล้อทีมหมูป่า