วันนี้ (1 ส.ค.2561) นายธีรพันธ์ อธิรัตน์ธนภรณ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ เปิดกิจกรรมทำความสะอาด หรือ บิ๊กคลีนนิ่งเดย์ บริเวณถนนข้าวสาร ตามนโยบายการจัดระเบียบทางเท้าทั่วกรุงเทพ มหานคร เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งตามประกาศเริ่มวันแรก โดยจะต้องห้ามขายของบนทางเท้าอย่างเด็ดขาดภายในถนนข้าวสาร
เบื้องต้นจะหารือร่วมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล ออกข้อบังคับการจราจร เพื่อจัดสรรพื้นที่ผิวจราจรให้ผู้ค้าสามารถค้าขายได้ในช่วงเย็นของทุกวัน ระหว่างเวลา 18.00- 24.00 น.เท่านั้น ยกเว้นวันจันทร์
สำหรับบรรยากาศการจัดกิจกรรมในช่วงเช้ามีกลุ่มผู้ค้าร่วมทำความสะอาดกับเจ้าหน้าที่ด้วย และมอบหนังสือที่ไปยื่นกับสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ชะลอการจัดระเบียบออกไปก่อน พร้อมกันนี้กลุ่มผู้ค้ายืนยันว่า ต้องการให้ กทม.หยุดแนวทางจัดระเบียบถนนข้าวสารในรูปแบบที่กำหนดไปก่อน และให้ผู้ค้ากลับมาตั้งแผงค้าเช่นเดิม
แต่หากยังยืนกรานตามแนวทางเดิมผู้ค้าก็จะยังคงตั้งวางแผงค้าเช่นเดิม เพราะที่ผ่านมา กลุ่มผู้ค้า ต่างเป็นผู้พัฒนาถนนข้าวสารกันเอง ไม่มีงบประมาณของรัฐใดๆ มาสนับสนุน จนกลายเป็นแลนด์มาร์ค มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากมาย
ต่อมาเวลา 11.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากทม.ช่วยกันทำความสะอาดถนนข้าวสาร เพื่อจัดระเบียบและห้ามขายของบนทางเท้าวันแรก ล่าสุดมีผู้ค้าบางราย นำแผงเหล็กมาตั้งบนทางเท้า เพื่อเตรียมจะเปิดขายของ โดยเจ้าหน้าที่หัวหน้าฝ่ายเทศกิจ หารือขอความร่วมมือให้ปฎิบัติตามกฎหมาย หากไม่เช่นนั้นคงจะทำตามขั้นตอนกฎหมาย
น.ส.ญาดา พรเพชรรัมภา ประธานชมรมผู้ค้าแผงลอยเสรีถนนข้าวสาร ระบุว่าจะขอขายของในวันนี้ก่อน ทำให้เจ้าหน้าที่เทศกิจ ต้องถ่ายรูปเพื่อแจ้งความดำเนินคดีตามขั้นตอน
ขอให้ถามประชาชนก่อน นโยบายไม่ใช่ของท่าน และกำลังทำลายวิถีถนนข้าวสารที่สร้างกันมา ผู้ค้าบริเวรถนนข้าวสาร และนักท่องเที่ยวล้นไปบริเวณรอบๆ 2 กิโลเมตร มีรายได้เท่าไหร่ แต่ท้องถิ่นไม่เคยนำงบมาให้ แต่กลับมาทำลายผู้ค้าขาย
นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่บริเวรถนนข้าวสาร และยืนยันว่าการจัดระเบียบร้านค้าแผงลอยถนนข้าวสารเป็นไปตามระเบียบ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดของบ้านเมือง แม้ว่าจะได้รับการต่อต้านจากกลุ่มผู้ค้าที่ไม่พอใจเพราะต้องการตั้งแผงค้าตลอด 24 ชั่วโมง กทม.ไม่สามารถอนุญาตได้ หากใครตั้งร้านค้าก่อน และเกินเวลาที่กำหนด ตำรวจจะดำเนินการตามกฎหมาย ที่ผ่านมา การจัดระเบียบผู้ค้าตามย่านต่างๆได้จัดหาสถานที่ใหม่ให้ไปค้าขาย หลายแห่งแต่อาจจะขายไม่ดีนัก ซึ่งกทม.พยามหาพื้นที่ที่เหมาะสมเป็นระเบียบ และช่วยเจรจาค่าเช่าให้ต่อไป