วันนี้ (8 ส.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุผลของการเร่งระบายน้ำในช่วงนี้ เพราะระดับน้ำในแม่น้ำก่ำและแม่น้ำโขงลดลงอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสดีที่เขื่อนน้ำอูนต้องเร่งระบายน้ำ จนกว่าระดับน้ำจะอยู่ในเกณฑ์ควบคุมคือร้อยละ 80 ของความจุอ่าง ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลานานเกือบ 1 เดือน
สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนน้ำอูน ขณะนี้ระดับน้ำอยู่ที่ 533 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 103 ของความจุอ่าง โดยวันนี้ยังคงมีน้ำไหลเข้าอ่าง 4.8 ล้านลูกบาศก์เมตร เท่ากับอัตราการระบายออก แต่ว่ายังมีน้ำที่เกินระดับเก็บกักจำนวนมาก ทำให้ในวันพรุ่งนี้ (9 ส.ค.) เจ้าหน้าที่จะเพิ่มอัตราการระบายน้ำจากวันละ 4.8 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น 5 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยผ่านกาลักน้ำ 1 ล้านลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่ระบายน้ำออกวันละ 5 ล้านลูกบาศก์เมตร คาดว่าจะใช้เวลาเกือบ 1 เดือนในการระบายน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม คือไม่เกินร้อยละ 80 ของความจุอ่าง เพื่อรองรับพายุที่คาดว่าจะพาดผ่านพื้นที่ในเดือนสิงหาคมนี้
ส่วนการเพิ่มการระบายน้ำเป็นวันละ 5 ล้านลูกบาศก์เมตรในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่ากาลักน้ำที่เหลืออีก 3 ชุดจะแล้วเสร็จในช่วงเช้ามืด และจะสามารถระบายน้ำออกได้ทันที แต่กว่าที่การติดตั้งกาลักน้ำทั้ง 25 ชุดจะแล้วเสร็จ ใช้เวลาเกือบ 10 วัน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ มาให้การสนับสนุน