วันนี้ (15 ส.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครอบครัวของ ด.ช.ณัฐวุฒิ ทองสอน อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนแห่งหนึ่ง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นำศพบุตรชาย มาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดควนลัง ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ หลังบุตรชายเสียชีวิต หลังถูกเพื่อนร่วมชั้นชกต่อยได้รับบาดเจ็บสาหัส และนอนรักษาตัวรักษาโรงพยาบาลเกือบ 2 สัปดาห์ กระทั่งเสียชีวิต เมื่อวานนี้ (14 ส.ค.)
ผู้ปกครองนักเรียนเสียชีวิต เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม บุตรชายและเพื่อนร่วมชั้นซึ่งเป็นนักมวย ได้ทะเลาะวิวาทกันในโรงเรียน และถูกเพื่อนชกต่อยเข้าปลายคางบุตรชาย จนหมดสติ และทางโรงเรียนนำตัวส่งโรงพยาบาล แพทย์ลงความเห็นพบเลือดคั่งในสมอง และเสียชีวิต เมื่อวานนี้
ตำรวจสถานีภูธรทุ่งตำเสา เปิดเผยว่า หลังนักเรียนทะเลาะวิวาทได้เพียง 3 วัน ผู้ปกครองนักเรียน เข้าแจ้งความเอาผิดนักเรียนคู่กรณี และตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาฐานความผิดทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังนักเรียนคู่กรณีเสียชีวิต ตำรวจเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม ฐานความผิดทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
เพื่อนร่วมชั้นทั้ง 2 ฝ่าย บอกว่า คู่กรณีทั้ง 2 คน เป็นเพื่อนสนิทกัน วันเกิดเหตุไม่ทราบทั้งคู่ทะเลาะสาเหตุใด แต่เห็นผู้เสียชีวิตถ่มน้ำลายใส่คู่กรณี ทำให้เพื่อนซึ่งเป็นนักเรียน ชกเข้าปลายคางจนหมดสติ แต่ไม่ทราบว่าจะเสียชีวิต
ด้านผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดเผยว่า ทางโรงเรียนทราบเรื่องตั้งวันเกิดเหตุ และทางโรงเรียนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกกรณี ระหว่างนักเรียนรักษาตัว ทางโรงเรียนได้ส่งครูเข้าดูแลต่อเนื่อง
ด้านนายธีร์ ภวังคนันท์ ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) วิเคราะห์ถึงปัญหาความรุนแรงในเด็กนักเรียนว่า ขณะนี้มีแนวโน้มลดลง ซึ่งจากข้อมูลจากศูนย์เฉพาะกิจฯ พบว่าความรุนแรงของนักเรียนในปี 2556-2560 ที่เกิดขึ้นระหว่างเด็กกับเด็กจาก 1,000 กว่ากรณีในปี 2556 ลดลงเหลือกว่า 100 กรณีในปีที่แล้ว แต่ยังพบความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับเด็ก ที่ถูกกระทำโดยบุคลากรทางการศึกษาด้วย รวมถึงเด็กทำร้ายตัวเอง บุคคลในครอบครัว กระทำรุนแรงกับเด็ก นอกจากนี้ ยังพบแนวโน้มพฤติกรรมความรุนแรงที่เกิดขึ้น มาจากการเจริญเติบโตที่เร็วขึ้นของเด็กทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งส่งผลต่อการควบคุมอารมณ์ตัวเอง
ขณะที่กรมสุขภาพจิต ระบุข้อมูลผลการสำรวจในโครงการติดตามสภาวการณ์เด็กและเยาวชนรายจังหวัด พบว่ามีเด็กถูกรังแกในสถานศึกษาปีละประมาณ 600,000 คน ปัจจุบัน ประเทศไทยอยู่ในอันดับ 2 ของโลกที่มีสัดส่วนนักเรียนถูกรังแกจากเพื่อนนักเรียนด้วยกันสูงถึงร้อยละ 40 รองจากประเทศญี่ปุ่น ขณะที่ในปี 2553 การสำรวจนักเรียนนักศึกษาในสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ พบว่าร้อยละ 33 เคยรังแกผู้อื่นทางออนไลน์ อีกร้อยละ 43 บอกเคยถูกคนอื่นรังแก
และเพื่อแก้ปัญหานี้ให้ได้สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ วิจัยและพัฒนาโปรแกรมป้องกันการรังแกกันในโรงเรียน ที่สอดคล้องกับบริบทโรงเรียนไทย โดยเน้นกลุ่มนักเรียนชั้นประถมศึกษาอายุ 6-13 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยของการเรียนรู้เรื่องเพื่อน การพัฒนาบุคลิกภาพพัฒนาการด้านศีลธรรมและการอยู่ในสังคม