วันนี้ (5 ก.ย.2561) พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงกรณีปัญหาการโอนย้ายไนท์ซาฟารี จ.เชียงใหม่ ไปอยู่ในองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งทำให้พนักงานกว่า 300 คนห่วงถูกลอยแพ โดยระบุว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบในการรองรับ ซึ่งไม่มีกำหนดระยะเวลากำหนดว่าจะย้ายไปควบรวมกันเมื่อไหร่
โดยทางออกหลังจากโอนย้ายไปแล้ว อาจจัดตั้งบริษัทลูกภายในบอร์ดองค์การสวนสัตว์ แต่ยังต้องหารูปแบบที่เหมาะสม เพื่อให้ไนท์ซาฟารี ซึ่งขณะนี้การบริหารงานต้องหารายได้เข้าไนท์ซาฟารีได้เอง ทั้งนี้อาจออกกฎหมายรองรับ

ภาพ:ไนท์ซาฟารี จ.เชียงใหม่
ภาพ:ไนท์ซาฟารี จ.เชียงใหม่
พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ไนท์ซาฟารี มีพิงนคร เป็นผู้ดูแลบริหารไนท์ซาฟารีและศูนย์ประชุมเชียงใหม่ ซึ่งการโอนย้ายอาจต้องล่าช้า เพราะในรายละเอียด ทั้งเรื่องของฝ่ายบุคคล งบประมาณรวมกันทั้ั้งหมดไม่ได้แยกออกจากกัน หากจะโอนย้ายมาควบรวมต้องมีความชัดเจนตรงนี้ก่อน ถ้ามีความพร้อมตรงนี้จะง่าย
หากจะโอนย้ายมายืนยันว่าจะไม่กระทบกับบุคลากร ธุรกิจกิจการต้องดำเนินการต่อไป ซึ่งจะไม่ให้คนถูกลอยแพอย่างแน่นอน และไม่ต้องการทำให้เกิดความเดือดร้อน

ภาพ:ไนท์ซาฟารี จ.เชียงใหม่
ภาพ:ไนท์ซาฟารี จ.เชียงใหม่
สำหรับการโอนย้ายไนท์ซาฟารี มาควบรวมกับองค์การสวนสัตว์ คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2560
ล่าสุดกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตอาหารสัตว์ส่งไนท์ซาฟารี ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองสูงสุด เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขอเพิกถอนมติ คณะรัฐมนตรี วันที่ 13 มี.ค. 2561 ในการแต่งตั้งประธานกรรมการ และกรรมการบริหารสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เพราะเป็นคำสั่งที่มิชอบด้วยกฏหมาย และ บุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งมีคุณสมบัติต้องห้าม แต่ศาลปกครองสูงสุดยกคำร้อง ทำให้กลุ่มชาวบ้านเตรียมยื่นอุทธรณ์อีกครั้ง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
300 ชีวิตห่วงถูกลอยแพหลัง "ไนท์ซาฟารี" ควบรวมสวนสัตว์