หลังรัฐบาลออกโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่สามารถกดเงินสดได้นั้น พบว่า มีผู้สูงอายุไปกดเงินป็นจำนวนมาก โดยในบางอำเภอมีตู้เอทีเอ็มกรุงไทยเพียง 1 ตู้จึงทำให้มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมากและเกิดปัญหาลักษณะเดียวกัน ในหลายอำเภอ เช่น อ.วังน้ำเย็น และ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ขณะเดียวกันพบว่า ขั้นตอนการกดเงินสดที่ซับซ้อนจึงเป็นช่องโหว่ให้มีผู้รับจ้างกดเงินสด โดยคิดค่ากดเงินคนละ 10-20 บาท
ชาวบ้าน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว กล่าวว่า การให้กดเป็นเงินสดเพิ่ม 100-200 บาท สร้างความยุ่งยากขึ้นเพราะบางคนอยู่ห่างไกล ต้องเสียค่าน้ำมันออกมาเพื่อกดเงินจำนวน 100 - 200 บาทภายในเมืองซึ่งถือว่าไม่คุ้มค่า
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุที่คิวยาวมาจากผู้ถือบัตรส่วนใหญ่ไม่รู้ขั้นตอนส่งผลให้ล่าช้าและบริเวณหน้าตู้เอทีเอ็ม และพบผู้ที่รับจ้างกดเงินสดให้ผู้สูงอายุโดยจะเก็บค่ากดบัตรละ 10-20 บาทต่อคน หาก 1 วันรับจ้างกดคนละ 10 บาท รับจ้างได้ 20 คนก็ได้ไป 200 บาท เเม้พฤติกรรมนี้ขัดเจตนารมณ์โครงการ เเต่กระทรวงการคลัง บอกว่า เป็นความผิดของบุคคล ซึ่งกระทรวงฯ จะตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้น แต่คงไม่ปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ การขยายสิทธิ์
น.ส.กุลยา ตันติเตมิท โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า "เจตนารมณ์คือให้เฉพาะผู้ถือบัตรเท่านั้น การกระทำเช่นนี้ขัดต่อเจตนารมณ์ ผู้ที่กระทำความผิดต้องมีการดำเนินการ แต่ตอนนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเพราะหลักเกณฑ์กำหนดไปแล้ว"
โครงการนี้มีเจตนารมณ์เพื่อเพิ่มทางเลือกในการใช้จ่ายได้ตามต้องการ บรรเทาภาระค่าครองชีพ และยังเพิ่มเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ สำหรับโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่สามารถกดเงินสดได้นั้น สำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นวงเงินพิเศษที่จ่ายให้เพียง 3 เดือนเท่านั้น โดยเริ่มตั้งแต่เงิน ก.ค. - ก.ย.61