วันนี้ (8 ต.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความทุ่มเทในการค้นหาและกู้ภัยทีมหมู่ป่าอะคาเดมี เมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาจนสำเร็จภายในระยะเวลา 18 วัน กับปฏิบัติการที่เรียกกันว่ายากที่สุดในโลก ทำให้นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติค้นหาทีมหมูป่าอะคาเดมี เป็นตัวแทนกลุ่มปฏิบัติการถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน เดินทางไปรับรางวัลที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งจัดพิธีมอบรางวัล ยกย่องบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่เสียสละทุ่มเทต่อการทำภารกิจเพื่อสังคม
โดยนายณรงศักดิ์ เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิช่วงเย็นเมื่อวานนี้ (7 ต.ค.) เพื่อเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นตัวแทนรับรางวัล Asia Game Changer Awards ที่สถาบันความร่วมมือระหว่างชาติ หรือ The Asia Society มอบให้ในฐานะตัวแทนทีมที่ช่วยเหลือการค้นหาและกู้ภัยทีมหมูป่าอะคาเดมี ซึ่งสูญหายเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ในฐานะกลุ่มคนไทยที่เสียสละและทุ่มเทในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อสังคม
สำหรับรางวัลนี้ มีจุดประสงค์เพื่อยกย่องผู้นำในทวีปเอเชียที่มีบทบาทสำคัญต่อการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และการศึกษา เป็นการสร้างความสัมพันธ์ ระหว่างสหรัฐอเมริกากับประเทศในเอเชียและหมู่เกาะแปซิฟิก สำหรับปีนี้เป็นครั้งแรกที่ตัวแทนประเทศไทยได้รับรางวัลนี้ ร่วมกับบุคคลและกลุ่มบุคคลจากประเทศ ที่ได้รับรางวัลรวมทั้งหมด 9 รางวัล
"การมอบรางวัลนี้เกี่ยวกับคนที่เสียสละทำงานให้สังคม ถ้าผมจำไม่ผิด มีการมอบรางวัลให้กลุ่มของเด็กนักเรียนผู้หญิงของอาฟกานิสสถาน ซึ่งทราบกันดีว่าผู้หญิงจะเหนื่อยกว่าผู้ชายเยอะในประเทศเหล่านั้น ได้รางวัลประกวดแข่งขันหุ่นยนต์ระดับโลก, มีนายแพทย์ชาวอิรัก ในภาวะสงคราม นายแพทย์นายนี้มีความลำบาก เป็นหมอศัลยกรรมที่เก่งให้กับคนขาดขาที่ถูกระเบิดในภาวะสงคราม ซึ่งเขาได้รับเชิญรัฐบาลอิรักให้กลับไปดูแลคนเหล่านี้ที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม, กลุ่มที่สามเป็นชาวเยรูซาเรม ที่มีกิจกรรมไม่ถือเชื้อชาติแต่ขอให้ทุกคนอยู่ในเยรูซาเลมอย่างเป็นสุข, มีเรื่องเด็กผู้หญิงที่วิ่งเก่งมากของเนปาล ได้รางวัลระดับโลก, มีกลุ่มเทคนิคเชียลและแรงงานที่เข้าไปช่วยปิดชัตดาวน์ระบบ ในโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ฟุกุชิมะในญี่ปุ่นช่วงเกิดแผ่นดินไหว แต่กลุ่มนี้เข้าไปปิดระบบเป็นกลุ่มสุดท้าย โดยไม่กลัวรังสีเคมี แต่จะช่วยให้ญี่ปุ่นรอดปลอดภัยจากเหตุแผ่นดินไหว หรือกลุ่มที่ปีนเขาเอเวอร์เรสแล้วเขาเดินทางไม่ว่าจะไปที่ไหน แต่เขาจะเก็บขยะกลับมาทิ้งที่บ้าน เป็นต้น"
ส่วนของประเทศไทย ที่เดินทางไปรับรางวัลครั้งนี้ นายณรงศักด์ได้เตรียมคำกล่าวปาฐกกถาด้วย เพื่อให้คนที่นั่นทราบว่าภารกิจที่ถ้ำหลวงเป็นงานที่ยากจริงๆ เป็นสิ่งที่เราสมควรจะได้รับรางวัล และสะท้อนให้เห็นบทเรียนว่าคนไทย หรือชาวโลกจะได้บทเรียนจากครั้งนี้
"ผมอยากจะสื่อสารว่า เราอยากให้ทกคนได้เรื่องนี้เป็นบทเรียน เราปฏิบัติงานโดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติศาสนา เราปฏิบัติงานโดยเสียสละ อยากให้ทุกคนอยู่เพื่อคนอื่น เสียสละเพื่อคนอื่น แล้วเราเชื่อว่าเมื่อทุกคนอยู่เพื่อคนอื่น เสียสละเพื่อคนอื่น ปรับตัวเพื่ออยู่ร่วมกับคนอื่น เราจะเปลี่ยนโลกได้ นี่คือประโยคที่จะไปพูด ซึ่งการรับรางวัลร่วมกับคนอื่นในเอเชีย เป็นกลุ่มคนที่ได้รับรางวัลของเอเชีย ผมถึงว่ากลุ่มคนนั้นสุดยอดมาก สุดยอดในส่วนของเขาแล้ว แต่ถามว่าภารกิจของเราสุดยอดไหม ก็ต้องบอกว่ามันสุดยอด มันยาก เพราะทุกคนที่ไปปฏิบัติภารกิจทั้งการดำน้ำ เอาท่ออากาศไปส่ง และอื่นๆ ทุกคนเสี่ยงชีวิตทั้งนั้น และอาสาสมัครที่ไปช่วยมีเป็นหมื่นคน เป็นภารกิจเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ก่อนจะชนะธรรมชาติได้ เพราะโอกาสที่เราจะชนะธรรมชาติมันเป็นไปไม่ได้ แต่เราใช้เทคนิคและความรู้มาใช้ปฏิบัติเพื่อชนะธรรมชาติจนปฏิบัติการได้ รวมถึงการได้คนมีฝีมือจากทั่วโลกมาช่วยเรา จึงเป็นความสำเร็จ"
หลังจากการรับรางวัลครั้งนี้ นายณรงศักดิ์ ยังมีกำหนดเดินทางไปพบกลุ่มคนไทยในนิวยอร์ก และลอสแองเจลิส เพื่อพบปะพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่เสียสละและทุ่มเทในปฏิบัติการถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนด้วย จะเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ วันที่ 15 ตุลาคมนี้