จากกรณี น.ส.ช่อลัดดา หญิงถูกสามีสาดน้ำกรด เสียชีวิตในรถแท็กซี่ หลังญาติอ้างว่าโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ปฏิเสธการรักษา จนทำให้ น.ส.ช่อลัดดา เสียชีวิตระหว่างทางไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่น
ล่าสุด วันนี้ (12 พ.ย.2561) พญ.วัลลภา ไชยมโนวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระราม 2 ได้ออกคำแถลงพร้อมด้วย นพ.พีระ คณานุวัฒน์ ทีมแพทย์โรงพยาบาล
มีการปฏิเสธรักษาคนไข้หรือไม่ ?
นพ.พีระ คณานุวัฒน์ ระบุว่า เราให้การรักษาเบื้องต้นไปแล้ว ไม่ได้ปฏิเสธการรักษาเบื้องต้น สำหรับขั้นตอนของการแอดมิต ต้องเรียนให้ทราบว่าเมื่อแอดมิตจะเกิดค่าใช้จ่าย ส่วนค่าใช้จ่ายตรงนี้จะเป็นใครจ่ายก็ต้องเป็นไปตามสิทธิที่คนไข้มี ถ้าคนไข้บัตรทอง คนไข้ไม่ต้องเสียเงินตัวเองสักบาท ถ้าคนไข้เป้นสิทธิประกันสังคม คนไข้ก็ไม่ต้องเสียเงินจ่ายตามสิทธิที่มีอยู่ วันนั้นเราก็มีการเช็กสิทธิ พอเช็กสิทธิออกมาแล้วพบว่าเป็นสิทธิที่บางมด ถ้าประเมินว่าไม่ได้อยู่ในภาวะวิกฤต เร่งด่วน ให้การรักษาตามปกติได้
คำแนะนำก็คือ นอนโรงพยาบาลพระราม 2 ไหม คนไข้ปฏิเสธ ซึ่งเราต้องเชิญชวนให้คนไข้นอนโรงพยาบาลอยู่แล้ว เพราะเป็นผลประโยชน์ของโรงพยาบาล แต่คนไข้ปฏิเสธ ถึงได้ติดต่อโรงพยาบาลบางมด
มีการกรอกเวชระเบียนไหม ?
เจ้าหน้าที่เป็นคนกรอกแล้วพิมพ์เข้าเครื่อง เพราะคนไข้กรอกเองไม่ได้ ส่วนการปฏิเสธการรักษา คนไข้เซ็นชื่อเองไม่ได้ ก็ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ 2 คน เซ็นชื่อร่วมกัน แต่ส่วนของพยาบาลเขาบันทึกว่า
รายงานผม ผมให้นอนโรงพยาบาล ให้แอดมิตเป็นผู้ป่วยในจึงแจ้งซุปเปอร์ไวเซอร์ เพราะไม่ใช่อำนาจที่จะรับเข้าโรงพยาบาลได้ ซุปเปอร์ไวเซอร์ก็ลงมาสัมภาษณ์คนไข้ และแจ้งสิทธิให้คนไข้ทราบ
ค่าใช้จ่ายในวันนั้นเท่าไหร่ ?
ควรจะมีนะครับ แต่เราไม่ได้เก็บสักบาท
มีหลักฐานยืนยันว่าผู้ป่วยปฏิเสธไหม ?
ทางโรงพยาบาลได้ถ่ายสำเนาเวชระเบียนทั้งหมดไว้ และในเช้าวันนี้มี 3 หน่วยงานราชการ ผู้อำนวยการกรมประกอบโรคศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานประกันสังคมในเขตพื้นที่ และสำนักงานกองกฎหมายของกรมสนับสนุนบริการทางการแพทย์ เพื่อมาขอสำเนารายชื่อแพทย์เวร รายชื่อแพทย์ประจำ รายชื่อพยาบาล รายชื่อผู้ช่วยพยาบาล สำเนาเวชระเบียนขอครบหมดเลยครับ เพราะฉะนั้น หลักฐานนี้ทั้งหมดเขาก็รับกันไปหมดแล้ว เพราะฉะนั้น ผมเลยไม่มั่นใจว่าจะสามารถเปิดเผยอะไรได้แค่ไหน เพราะเอกสารราชการ เข้าไปอยู่ในเอกสารสอบสวนราชการแล้ว
กรณีที่คนไข้ปฏิเสธการรักษาต้องมีการเซ็นชื่อไหม ?
ปกติเซ็นชื่อหมดทกุคน ถ้าเป็นคนไข้ OPD แต่คนไข้คนนี้เซ็นไม่ได้ เพราะว่ามือเขาร้อนและสะบัดอยู่ตลอดเวลา ต้องบอกว่าเจ้าหน้าที่ของผมก็คงจะใจดีเกินไปก็เลยอลุ่มอล่วยไม่หาทางที่จะให้มีการบันทึกหลักฐานอะไรสักอย่างไว้ เช่นปั๊มลายนิ้วมือ แต่เขาก็ไม่ได้ทำ ตรงนี้ต้องบอกว่า ไม่มีหลักฐานที่ยืนยันว่าเขาปฏิเสธการรักษา แต่ด้วยคำพูดและรายงาน รวมทั้งการติดต่อรถพยาบาลมันช่วยยืนยันว่าคนไข้ประสงค์ที่จะไปรักษาที่โรงพยาบาลบางมดต่อ เพราะว่าสิทธิอยู่ที่นั่น อย่างไรก็ไม่เกิดค่าใช้จ่าย สบายใจกว่าว่าอย่างนั้นเถอะ
มีภาพวงจรปิดที่เป็นหลักฐานได้ไหม ?
มีครับ ได้มอบให้ 3 หน่วยงานไปแล้ว เป็นภาพตั้งแต่ทางเข้าที่เดินขึ้นมา เห็นหน้าคนไข้ชัดมาก เพราะกล้องเราก็คุณภาพใช้ได้ เห็นคนไข้วิ่งขึ้นมาโดยมีลูกวิ่งตามหลังมาด้วย พอออกมากล้องก็เห็นชัดว่าวิ่งออกไปทางประตูทำบัตรเวชระเบียน ตอนนั้น ถ้าให้เดา ประตูห้องฉุกเฉินอาจจะปิดล็อก เพราะฉะนั้น คนไข้ผ่านไปแล้ว สัญญาณก็ไม่ได้เปิดให้ หรือ อาจจะมองเข้าไปแล้วไม่มีคน แต่คนอยู่ทางขวา เจ้าหน้าที่ของเรานั่งอยู่ตรงโต๊ะเวชระเบียน
เขาก็เลยวิ่งไปทางนั้น แล้วก็ร้องขอความช่วยเหลือ ว่าร้อนมาก ปวดแสบ ปวดร้อน ถูกน้ำร้อนอะไรสาดมา จะขอทำบัตร เจ้าหน้าที่ทำบัตรกลับบอกว่า ฉุกเฉินไม่ต้องทำบัตรค่ะ เข้าไปก่อน เดี๋ยวตามเข้าไปทำ เขาก็เลยวิ่งออกไป แต่ด้วยความที่ไม่เคยมา ประตูห้องฉุกเฉินด้านหลัง ผมก็เดาอีกนะครับว่า อาจจะปิดอยู่
เพราะเวลาที่จะต้องทำแผลคนไข้ เปิดเสื้อคนไข้จะต้องปิด ประตูนั้นปิด ทำให้คนไข้วิ่งเลย เพราะประตูห้องฉุกเฉินด้านหลังติดกับบันได เขาก็ลงบันไดไปเจอเวรเปลเข้า เวรเปลจึงได้ถามและรีบพาขึ้นมาใหม่ คนไข้ก็เดินตามหรือวิ่งตามขึ้นมาไม่ได้ใช้รถเข็นอะไรเลยครับ
ทีมแพทย์ได้ถามคนไข้ไหมว่าโดนอะไรมา ?
ส่วนตัวผมวินิจฉัยไม่ได้ครับ เพราะคำว่าแผล สกินเบิร์น เราเห็นเป็นรอยแดง บอกไม่ได้ว่าโดนน้ำกรด โดนเปลวไฟ โดนน้ำร้อน แยกไม่ได้ครับ
ห้องฉุกเฉินมีกล้องวงจรปิดไหม ?
เข้าใจว่าห้องฉุกเฉินติดกล้องไม่ได้ เพราะต้องมีการเปิดเสื้อผ้าผู้ป่วยในการทำแผล เพราะฉะนั้น จึงเป็นบริเวณที่ต้องสงวนไว้ว่าติดกล้องไม่ได้ มีเฉพาะกล้องที่ส่องบริเวณทางเดิน
ไม่มีกล้องวงจรปิดแล้วมีหลักฐานอะไร ?
การปฏิเสธนั้นไม่ได้เกิดขึ้นบนเตียง แต่เป็นการพูดคุยระหว่างคนไข้กับเจ้าหน้าที่พยาบาล ซึ่งอย่างที่บอกว่า ถ้าคนไข้ไม่ได้ปฏิเสธเรารับเข้ามาก็เป็นผลประโยชน์ของโรงพยาบาล
ทำไมรถโรงพยาบาลไม่ไปส่งคนไข้ ?
รถโรงพยาบาลก็มีจอดอยู่ เจ้าหน้าที่ก็มีชื่ออยู่ครบถ้วน แต่วันนั้นต้องเดาใจคนไข้ว่า เห็นการติดต่อของเรากับโรงพยาบาลปลายทาง แต่ละช่วง สุดท้ายเขาเจ็บ ปวดแสบปวดร้อนตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเขาก็เลยจะขอไปเอง เพราะเห็นคุยนาน
ทีนี้พอจะขอไปเอง ที่มีข่าวออกไปว่ายัดเยียดเงินให้คนไข้ 40 บาท ไม่ใช่ ไม่ได้ยัดเยียด แต่เกิดจากพอเขาบอกจะไปเอง พยาบาลเห็นลูกสาวมาด้วย ก็ถามเพราะทราบว่านอนอยู่กับแม่อาจจะโดนน้ำร้อนลวกไปด้วย เจ็บตรงไหนหรือเปล่า เขาใช้คำว่า แล้วลูกโดนไปด้วยหรือเปล่า
เด็กก็บอกว่าโดนที่ขาเป็นรอยแดงๆ นิดหน่อย เมื่อแม่ตัดสินใจจะไปให้ได้ บุรุษพยาบาลคนนั้นเลยบอกลูกสาวว่า สิทธิของหนูเป็นบัตรทองพระราม 2 นะ เพราะฉะนั้นต่อไป ถ้ามีปัญหาอยู่หรือมีแผลก็กลับมารักษาที่พระราม 2 ได้ แต่แม่ประกันสังคมหมด
แล้วก็ถามเขาว่าที่จะไปแท็กซี่ มีเงินพอไหม เป็นเด็กนะครับ ไม่ใช่แม่ ที่ล้วงกระเป๋าออกมาแล้วมีแบงก์ 50 บาท 1 ใบ บุรุษพยาบาลคนนั้น เห็นแล้วก็คิดได้ว่าค่าแท็กซี่ไม่น่าจะพอ บุรุษพยาบาลผม ควักเงินส่วนตัว 40 บาท ที่มีในกระเป่าเขานั่นแหละ ส่งให้เด็ก คิดว่า 90 บาท น่าจะไปถึงบางมดได้
เพราะฉะนั้นเป็นความใจดีของเจ้าหน้าที่ของผมเอง ไม่ได้เกี่ยวกับหมอ คนอื่นก็ไม่ได้รับรู้เรื่องนี้ เมื่อมีข่าวออกมาเขาก็มาบอกผมว่าเขาเป็นคนให้ไปเอง ผมก็มองว่าเป็นความกรุณาของเขาครับ
กรณีนี้นำไปสู่การเสียชีวิตได้อย่างไร ?
ผมพยายามหาทุกช่องทางเกี่ยวกับสาเหตุการตาย แต่ตอนนี้ยังไม่มี ถ้าใครทราบหรือใครมีเส้นสายลึกๆ ช่วยไปถามเขาหน่อยเถอะศิริราชอะไรพวกนี้ ทายาทโดยธรรมเท่านั้นที่จะรับทราบได้
มีโอกาสที่จะเสียชีวิตจากแผลปวดแสบปวดร้อนไหม ?
เหตุที่จะเสียชีวิตจากแผลความร้อนลวก จะต้องเป็นระยะ 2 ต้องมีการเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง หรือผิวหนังลอก เปิดออก หรือหนังกำพร้าลอก ถ้าเป็นในกรณีนี้จะเสียชีวิตจากการขาดน้ำ และต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะเสียชีวิต เพราะฉะนั้น วิธีแก้ คือ การให้น้ำให้ทัน ให้น้ำเกลือ 5-6 ลิตร แต่คนไข้คนนี้ไม่ได้มีอาการขนาดนั้น เพราะว่าผิวหนังแค่เป็นรอยแดงไม่มีการเสียน้ำ
ถ้าผิวหนังไหม้ในระยะ 3 จะเป็นสาเหตุการเสียชีวิตได้ไหม ?
ได้ครับ หากเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว มีสาเหตุจากการเสียน้ำ เสียเกลือแร่ ถ้าบริเวณกว้างพอ และการติดเชื้อที่อาจจะตามมา ซึ่งเชื้อเข้ากระแสเลือดแน่ๆ แต่กรณีติดเชื้อจะนานประมาณ 3-4 วัน เพราะต้องรอให้มีการเพาะเชื้อก่อน
กรณีนี้ที่แค่ไม่กี่ชั่วโมงก็เสียชีวิต คิดว่าเกิดจากสาเหตุใด ?
ลักษณะของแผล หรือ รอยแดงนั้น ไม่เป็นเหตุให้เสียชีวิต
ถ้าผลชันสูตรออกมาเป็นระยะ 3 ?
เราประเมินไม่มีพลาดอยู่แล้ว เพราะกว่าจะถึงระยะ 3 ต้องผ่านระยะ 2 ก่อน ถ้าระยะ 2 ต้องมีลักษณะหนังลอก หนังต้องพุพอง
มีการดำเนินการทางกฎหมายกลับไหม ?
ถือว่าเราอยู่กลางพายุ อยู่กลางฝนพระราม 2 ก็ต้องโดนฝนพระราม 2 ไปด้วย เพราะฉะนั้น โดยส่วนตัวไม่ฟ้องร้องครับ
มันเกินความคาดฝันของเราทั้งหมด เพราะลักษณะที่เราเห็นแบบนี้ มันไม่น่าจะเป็นเหตุให้ถึงแก่การเสียชีวิตได้ ทำไมถึงเสียชีวิต เราเองก็อยากรู้ใจจะขาดว่าสาเหตุคืออะไร
ขณะที่ เฟซบุ๊กโรงพยาบาลพระราม 2 เผยแพร่แถลงการณ์ โดยระบุว่า จากเหตุการณ์ โรงพยาบาลพระราม 2 รับคนไข้หญิงไทยอายุ 38 ปี ซึ่งเข้ามาในโรงพยาบาลในลักษณะเดินกึ่งวิ่งมาจากด้านล่างของโรงพยาบาลบริเวณทางลาดขึ้นไปที่ห้องฉุกเฉินบริเวณชั้น 2 เวลาเกือบ 06.00 น. ของวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากคนไข้ไม่เคยมาที่โรงพยาบาลพระราม 2 จึงวิ่งผ่านห้องฉุกเฉินด้านหน้าไปบริเวณ OPD และลงไปที่ชั้นใต้ดินของโรงพยาบาล จนพบพนักงานเคลื่อนย้ายผู้ป่วยของโรงพยาบาลซึ่งอยู่บริเวณชั้นใต้ดิน จึงได้สอบถามคนไข้และพาคนไข้เดินขึ้นมาที่ห้องฉุกเฉินบริเวณประตูหลังซึ่งอยู่หน้าลิฟต์
ขณะที่คนไข้เข้าไปที่ห้องฉุกเฉินก็ได้ร้องบอกเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉินว่าช่วยด้วย ปวดแสบปวดร้อน พยาบาลห้องฉุกเฉินจึงได้รีบเข้าปฐมพยาบาลคนไข้พร้อมสอบถามอาการ ทราบว่าคนไข้ถูกสามีสาดน้ำร้อนเข้าหน้าในขณะที่นอน พยาบาลจึงได้ทำการปฐมพยาบาลพร้อมวัดสัญญาณชีพ ผลความดันปกิ ชีพจรปกติ การหายใจปกติ ออกซิเจนในเลือดปกติ
จากนั้นได้โทรรายงานแพทย์ที่ปรึกษาทางศัลยกรรม นพ.พีระ คณานุวัฒน์ พร้อมแจ้งอาการและสัญญาณชีพให้ทราบ นพ.พีระ คณานุวัฒน์ สั่งให้ทำแผลคนไข้และรับไว้เป็นผู้ป่วยในเพื่อให้ยาระงับปวดและสังเกตอาการ แต่คนไข้ได้แจ้งปฏิเสธการรักษาเป็นผู้ป่วยในพร้อมทั้งบอกความต้องการที่จะไปรักษาตามสิทธิประกันสังคมของตน ซึ่งอยู่ที่โรงพยาบาลบางมด และประสงค์ขอเดินทางไปเอง ทางโรงพยาบาลพระราม 2 ได้โทรไปแจ้งที่โรงพยาบาลบางมดแต่ไม่สามารถติดต่อผู้ตรวจการณ์ของโรงพยาบาลบางมดได้ในขณะนั้น จึงขอสายคุยกับพยาบาลห้องฉุกเฉิน และแจ้งว่าจะมีคนไข้คนดังกล่าวไปที่โรงพยาบาล จากนั้นโรงพยาบาลพระราม 2 ได้นำส่งคนไข้ขึ้นรถแท็กซี่ไปโรงพยาบาลบางมดตามความประสงค์ในเวลาประมาณ 06.00 น.
โรงพยาบาลพระราม 2 ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงและขอยืนยันว่าได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดตามมาตรฐานโรงพยาบาลในการดูแลคนไข้ และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของคนไข้ในการสูญเสียครั้งนี้ด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"อัจฉริยะ" บุก สธ.ร้องเอาผิดรพ.ปฏิเสธรักษาคนไข้ถูกสาดน้ำกรด