อากาศที่หนาวเย็นในช่วงฤดูหนาว ทำให้เชื้อโรคบางชนิดอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานขึ้น แพร่กระจายง่ายและเร็วกว่าฤดูอื่น ซึ่งกรมควบคุมโรคได้ออกประกาศเรื่องการป้องกันโรคและภัยสุขภาพที่เกิดในช่วงฤดูหนาวของไทยปีนี้ โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มโรคติดต่อ
1. โรคหัด แม้ส่วนใหญ่ผื่นแดงจากโรคนี้จะหายไปเองใน 2 สัปดาห์ แต่บางคนอาจมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ทำให้เกิดปอดอักเสบและสมองอักเสบได้ ซึ่งสามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน
2. โรคปอดอักเสบ หรือโรคปอดบวม โรคนี้เกิดได้ทุกเพศทุกวัย แต่อาการรุนแรงมักพบในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ปีและผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หอบหืด ปอดอุดกั้นเรื้อรังและโรคหัวใจ
3. โรคไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่ป่วยได้ง่ายโดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว ส่วนใหญ่เป็นเด็ก แต่ผู้เสียชีวิตมักเป็นผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปและมีโรคประจำตัว
4. โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน ที่น่าห่วงคือ "โรตาไวรัส" เพราะทำให้เกิดการระบาดเป็นกลุ่มก้อนและเด็กเสียชีวิตได้ มักพบบ่อยในกลุ่มเด็กเล็กที่มีอายุ 1-3 ปี
กลุ่มภัยสุขภาพ
1. การเสียชีวิตที่เกี่ยวเนื่องจากภาวะอากาศหนาว มักเกิดขึ้นในกลุ่มผู้สูงอายุ คนเร่ร่อน ผู้มีโรคประจำตัวและผู้ดื่มสุราเพื่อคลายความหนาว
2. การสูดดมก๊าซพิษและขาดอากาศหายใจจากเครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊ส ซึ่งพบว่าสถานที่ท่องเที่ยวตามยอดดอย ภูเขา และรีสอร์ท มักมีการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊สแทนระบบไฟฟ้า หากสูดดมเข้าไปมากและนานจะมีอาการวิงเวียน ปวดศีรษะ หมดสติและเสียชีวิตได้ ดังนั้นจึงไม่ควรอาบน้ำนาน เว้นระยะเวลา 15-20 นาที ให้อากาศระบายออก หากมีอาการผิดปกติ หรือได้กลิ่นแก๊ส ควรออกจากห้องน้ำทันที
3. การเกิดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงอากาศหนาวและหมอกจัด แนะผู้ใช้รถใช้ถนนตรวจสอบสภาพอากาศและเส้นทางก่อนเดินทาง หากทัศนะวิสัยไม่ดี หมอกลงจัด ไม่ควรเดินทาง
สำหรับคำแนะนำในการป้องกันตนเองจากภัยหนาวคือ ไม่ควรดื่มสุราและเสพของมึนเมา รักษาร่างกายให้แข็งแรงและสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย ดูแลและช่วยเหลือกลุ่มเสี่ยงที่อาจเกิดภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำ สวมเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มกันหนาวและเตรียมที่อยู่อาศัยให้ป้องกันลมหนาวได้ รวมถึงระวังและสังเกตอาการผู้ป่วยหลังกินยารักษาโรคบางชนิด