ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

32 นักลงทุน ชิงพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3

เศรษฐกิจ
26 พ.ย. 61
17:11
616
Logo Thai PBS
32 นักลงทุน ชิงพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3
แนวโน้มตู้สินค้าขนาดใหญ่ที่จะเข้ามาเทียบท่าเรือแหลมฉบังอีกจำนวนมหาศาล ส่งผลให้มีการผลักดันโครงการก่อสร้างระยะที่ 3 โดยขณะนี้มีทุนไทยและต่างชาติ 32 เจ้า สนใจแข่งขันชิงโอกาสในการลงทุน

วันนี้ (26 พ.ย.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรือบรรทุกตู้สินค้าขนาดใหญ่สัญชาติญี่ปุ่น ที่เข้ามาจอดท่าเทียบเรือแหลมฉบังเฟส 2 ที่ระดับน้ำลึกกว่า 15.7 เมตร สามารถรองรับตู้สินค้าได้ 14,000 ทีอียู เป็นเรือลำใหญ่ที่สุดที่เคยเข้ามาในประเทศไทย ผ่านเส้นทางเดินเรือ โดยจะมุ่งจากไทยผ่านเวียดนาม ตรงเข้าสู่สหภาพยุโรป ใช้เวลา 64 วันต่อรอบ และเตรียมจะนำเรือเข้ามาอีก 8 ลำภายในปีหน้า


สำหรับปริมาณตู้ขนส่งสินค้าในท่าเรือแหลมฉบังในแต่ละปีมีจำนวนเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4-5 แสนทีอียู ซึ่งขนาดท่าเรือปัจจุบันไม่เพียงพอรองรับการขนส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้น ผู้ขนส่งสินค้าทางเรือ มองว่า รัฐจำเป็นต้องขยายท่าเรือเฟส 3 ให้ได้ตามแผน เพื่อลดความแออัดในการขนส่งสินค้าทางเรือลง และคาดหวังว่าจะได้เอกชนที่มีความเชี่ยวชาญ รวมถึงยกระดับการขนส่งสินค้าทางเรือให้เชื่อมกับทางรางได้


ด้าน ผู้บริหารบริษัท ฮัทชิสัน แหลมฉบัง เทอมินัล จำกัด หนึ่งในผู้พัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 2 และสนใจเข้าประมูลเฟส 3 ยืนยันว่า มีศักยภาพพอจะพัฒนาท่าเรือใหม่ รองรับเรือขนาดใหญ่จากทั่วโลก ที่จะเข้ามาไทย และมีระบบเทคโนโลยียกตู้สินค้าเพิ่มความเร็วในการขนส่ง ร้อยละ 20

ผมมองเห็นการพัฒนาที่ไม่ใช่แค่ปลายทาง แต่จะเป็นส่วนกลางในการขนส่งสินค้าในอนาคต และจะเป็นท่าเรือนานาชาติที่จะสามารถรองรับสินค้าและถ่ายลำผ่านเข้าออกในประเทศไทย 

ขณะที่ ร.ต.ต. มนตรี ฤกษ์จำเนียร  ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ยืนยันว่า ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 จะต้องรองรับเรือขนาดใหญ่ ความยาว 400 เมตร รองรับตู้ขนส่งไม่ต่ำกว่า 18,000 ทีอียู เพื่อเพิ่มศักยภาพขนส่งสินค้าทางเรือ

เราต้องออกแบบร่องน้ำของเฟส 3 อยู่ที่ขนาด -18.5 เพื่อรองรับเรือประเภทนี้ เพราะเราไม่ต้องการให้เรือรอเข้าท่านาน


ล่าสุด เอกชนไทยและต่างชาติสนใจที่จะพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 จำนวน 32 ราย อยู่ในขั้นตอนการเปิดให้เอกชนยื่นซองข้อเสนอภายในเดือนมกราคม 2562 คาดว่าจะได้ผู้ชนะเดือนเมษายนปีหน้า ซึ่งการพิจารณาข้อเสนอซองประมูลคณะทำงานจะคำนึงความโปร่งใสและผลตอบแทนเพื่อให้รัฐได้ประโยชน์สูงสุด

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง