วันนี้ (27 พ.ย.2561) พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า ได้ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายผู้สูงอายุ ปี 2546 เรื่องกำหนดแหล่งเงินเข้ากองทุนผู้สูงอายุเพิ่มเติม 2 แหล่ง คือการเรียกเก็บภาษีสรรพสามิต สินค้าสุราและยาสูบในอัตราร้อยละ 2 แต่ไม่เกิน 4,000 ล้านบาทต่อปี และการเปิดให้บริจาคเบี้ยยังชีพเข้ากองทุนผู้สูงอายุ เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน ได้รับเงินเพิ่มเดือนละ 100 บาท จากเดิม 300 บาท รวมเป็น 400 บาท และรายได้เกินกว่า 30,000 บาทต่อเดือน แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ได้รับเงินเพิ่มเดือนละ 50 บาท จากเดิมได้รับ 200 บาท เป็น 250 บาท โดยเริ่มจ่ายตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทุกวันที่ 15 ของเดือน แต่เนื่องจากมีผู้แจ้งบริจาคเบี้ยยังชีพ เข้ากองทุนผู้สูงอายุ จำนวน 651 คน รวมเป็นเงินกว่า 2,560,000 บาท ซึ่งยังมีน้อย กรมกิจการผู้สูงอายุ จึงจัดโครงการประชาสัมพันธ์ บริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุใน 4 ภาค โดยสามารถนำบัตรประชาชนไปยื่นได้ที่ธนาคารสังกัดกระทรวงการคลัง และจะได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติ พร้อมการหักลดหย่อนภาษี 1 เท่า