วันนี้ (3 ธ.ค.2561) กรณีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทระหว่างคนขับแท็กซี่ และพนักงานรักษาความปลอด ภัยห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง บริเวณจุดรับส่งผู้โดยสารเมื่อสัปดาห์ก่อน แม้ว่าคู่กรณีทั้งสองได้ไปสถานีตำรวจและถูกเปรียบเทียบปรับคนละ 500 บาท และไม่ติดใจเอาความกันแล้ว แต่รถแท็กซี่คันดังกล่าวยังถือว่ามีความผิดที่ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสารอยู่ ทำให้กรมการขนส่งทางบกเรียกผู้ขับขี่รถแท็กซี่คันดังกล่าวมาชี้แจงข้อเท็จจริงในวันนี้
นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวถึง กรณีเหตุแท็กซี่ทะเลาะวิวาทกับ รปภ. ห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านอโศก และทางห้างได้ออกมาชี้แจงว่าเหตุมาจากแท็กซี่ปฎิเสธผู้โดยสาร ว่าคงต้องรอการสืบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงคำบอกเล่าของพยานแวดล้อมโดยรอบในเรื่องของการปฏิเสธผู้โดยสารว่าเป็นความจริงหรือไม่ เนื่องจากกรมการขนส่งเข้มงวดกับการยกระดับบริการรถแท็กซี่
เพราะแม้ว่าคดีความจะจบลง แต่แท็กซี่คันกล่าวยังมีความผิดเนื่องจากปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร เป็นความผิดตามมาตรา 57 จัตวา ประกอบมาตรา 66/2 ต้องระวางโทษ ปรับไม่เกิน 1,000 บาท ตาม พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ.2522 โดยกองตรวจการขนส่งทางบกได้ประสานกับผู้ขับรถแล้วโดยจะมาชี้แจงข้อเท็จจริง ในวันนี้
กรณีนี้สืบเนื่องจากมีผู้โพสต์คลิปเหตุการณ์ทะเลาะวิวาท ระหว่างโชเฟอร์แท็กซี่กับ รปภ.ของห้างสรรพสินค้าดัง บริเวณจุดรับส่งหน้าห้างดังกล่าว โดยทางห้างได้ออกมาชี้แจงว่า โชเฟอร์แท็กซี่สีชมพู ทะ เบียน ทห 468 กรุงเทพฯ ปฏิเสธไม่ยอมรับผู้โดยสาร ทาง รปภ.จึงขอให้รถคันดังกล่าวออกจากจุดดังกล่าวทันที แต่โชเฟอร์มีปากเสียงกับ รปภ.จนปรากฎเป็นเหตุทะเลาะวิวาท เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา และเกิดคลิปแชร์ทางโลกออนไลน์
อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นคนขับแท็กซี่ และ รปภ.ของห้าง รปภ.คู่กรณี ได้เข้าพบ ตำรวจสอบสวน สน.ลุมพินี เพื่อรับข้อกล่าวหา "ก่อเหตุทะเลาะวิวาทในที่สาธารณะ" และเปรียบเทียบปรับคนละ 500 บาทซึ่งทั้งคู่หลังจากปรับความเข้าใจกันแล้วก็ไม่ติดใจเอาความกัน