วันนี้(8 ธ.ค.2561) นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า กรมป่าไม้ ได้รับอนุมัติในหลักการจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมาให้จัดทำโครงการชุมชนไม้มีค่า เพื่อให้ประชาชนเข้าใจถึงความสำคัญและประโยชน์ของการปลูกไม้มีค่าทางเศรษฐกิจในที่ดินกรรมสิทธิ์มาใช้เป็นเงินออมใช้เป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกันได้
โดยโครงการชุมชนไม้มีค่า จะเน้นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน มีกลไกการดำเนินงานร่วมกันในกรอบภารกิจด้านต่างๆ เช่นสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ จะวิจัยปรับปรุงพันธุ์ไม้มีค่าให้มีลักษณะเฉพาะที่สามารถตรวจสอบได้
ส่วนสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ ช่วยดูแลความหลากหลายทางชีวภาพ รวมทั้งจัดทำเกณฑ์มาตรฐาน การประเมินมูลค่าต้นไม้ นอกจากนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือธ.ก.ส. จัดทำรายละเอียด เกณฑ์มาตรฐานการประเมินมูลค่าไม้ และเรื่องการใช้ต้นไม้เป็นหลักประกัน
นายอรรถพล กล่าวว่า ส่วนกรมป่าไม้ เร่งปรับปรุงแก้ไข และบริการวิชาการเรื่องพระราชบัญญัติ กฎหมายระเบียบ และข้อบังคับเกี่ยวกับการปลูกและการตัดไม้ รวมทั้งสนับสนุนการคัดเลือก เพาะพันธุ์ไม้ และการขยายพันธุ์ไม้มีค่า
ทั้งนี้ ได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา โดยกำหนดเป้าหมายให้เกิดชุมชนไม้มีค่า 20,000 ชุมชน ในช่วงระยะเวลา 10 ปี จากประชาชน 2.6 ล้านครัวเรือน สนับสนุนให้ปลูกต้นไม้ครัวเรือนละ 400 ต้น ก็จะได้ต้นไม้จำนวน 1,040 ล้านต้น ช่วยเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ได้อีก 26 ล้านไร่ และคิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 1 ล้านบาทแล้วยังช่วยลดปัญหาก๊าซเรือนกระจก