เมื่อวานนี้ (19 ธ.ค.2561) พรรคพลังประชารัฐ จัดงานระดมทุนภายใต้คอนเซ็ปต์ "ประเทศไทยหนึ่งเดียว" ที่อิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี โดยมีการแสดงของศิลปินจากหลากหลายค่าย และจัดงานเลี้ยงโต๊ะจีน จำนวน 200 โต๊ะ ราคาโต๊ะละ 3 ล้านบาท แต่มีผู้บริจาคจำนวนหนึ่งที่บริจาคเกินกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า ได้ยอดเงินบริจาคเกินกว่า 600 ล้านบาทตามที่ตั้งเอาไว้แล้ว และหลังจากนี้จะตรวจสอบ เพื่อรายงานต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งต่อไป
ทั้งนี้ ตามกฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมืองกำหนดเรื่องผู้บริจาคระดมทุนให้แก่พรรคไว้ในมาตรา 66 ว่าบุคคลจะบริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่พรรคการเมืองเกิน 10 ล้านบาทต่อปีไม่ได้ และกรณีนิติบุคคลไม่เกิน 5 ล้านบาท
สำหรับแกนนำรัฐมนตรีทั้ง 4 คน ได้แก่ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค, นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค, นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค ต่างไปร่วมงานอย่างครบถ้วน และมีนักการเมืองจากพรรคการเมืองอื่นๆ มาร่วมงานด้วย อาทิ นายสุวัจน์ ลิปพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา (ชพน.), นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค, นายนิกร จำนง ผอ.พรรคชาติไทยพัฒนา, นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตแกนนำ กปปส. และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ภายในงานได้ใช้วิธีการสแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อลงทะเบียนผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมงาน และทางสำรวจความเห็น 5 ปัญหาของประเทศที่ต้องการให้แก้ไขมากที่สุด และมีการแสดงจากศิลปินนักร้องดัง อาทิ โก้ มิสเตอร์แซกแมน, รัดเกล้า อามระดิษ, ทาทา ยัง, วงนูโว สร้างสีสันภายในงาน
ก่อนหน้านี้ วันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา พรรครวมพลังประชาชาติไทย นำโดย ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรค และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้ง จัดงานเลี้ยงกาล่าดินเนอร์ระดมทุนไป เป็นโต๊ะจีน 240 โต๊ะ โต๊ะละ 1 ล้านบาท ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีไม่ได้ร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ เพราะเป็นไข้หวัด ยืนยันว่าไม่ได้ไปช่วยระดมทุมให้พรรคพลังประชารัฐ พร้อมกล่าวถึงกรณีฝ่ายความมั่นคง ตรวจสอบอาวุธสงคราม และกลุ่มผู้มีอิทธิพล เพื่อความเรียบร้อยในการเลือกตั้งที่จะมาถึง โดย พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่าขณะนี้นักการเมืองสามารถหาเสียงได้อย่างอิสระ รวมทั้งทำกิจกรรมในช่วงปีใหม่ เพราะ คสช.ได้ปลดล็อกการเมืองแล้ว แต่เป็นหน้าที่ของ กกต.ที่ตรวจสอบหากพบความผิดปกติ และ คสช.จะไม่ใช้ มาตรา 44 แก้ไขกฎหมาย เพื่อให้หมายเลขผู้สมัครเลือกตั้ง ส.ส.เป็นแบบพรรคเดียว เบอร์เดียว ตามที่พรรคเพื่อไทยเรียกร้อง