วันนี้ (19 ม.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บาตรพระยังที่มีร่องรอยกระสุนและเศษกระจกที่แตกกระจายในศาลาการเปรียญภายในวัดรัตนานุภาพ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ยังคงความเศร้าโศกแก่เหล่าญาติโยมที่มาให้กำลังใจพระจำนวนมาก หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุไม่ต่ำกว่า 6 คนแต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่ทำทีเข้ามาตรวจเยี่ยมภายในวัด ก่อนจะยิงพระครูประโชติ รัตนานุรักษ์ เจ้าอาวาส และพระสมุห์อรรถพร ขุนอำไพ มรณภาพในที่เกิดเหตุ ขณะที่พระประเวศ สุขแก้ว และพระธนโชติ ชุมเลิศ ได้รับบาดเจ็บ
พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ และนอนพักค้างคืนที่วัดรัตนานุภาพ พร้อมประชุมร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ก่อนสั่งการให้ทุกฝ่ายทำงานแบบบูรณาการร่วมกับกำลังภาคประชาชน เพื่อเข้าดูแลความปลอดภัยวัดและชุมชนล่อแหลม โดยระบุว่า ขอให้ทุกฝ่ายใช้ความอดทน และกำชับให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเป้าหมายอ่อนแอมากขึ้น โดยไม่ใช้มาตรการนอกกฎหมาย
ขณะที่ พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า พฤติกรรมของผู้ก่อเหตุสร้างความเสียใจให้กับพุทธศาสนิกชนไม่เว้นแม้แต่มุสลิมที่ยอมรับไม่ได้กับพฤติกรรมอันโหดร้าย โดยกระทำได้แม้พระที่กำลังปฏิบัติธรรม จึงถือเป็นพฤติกรรมของกลุ่มนอกศาสนา นอกจากนี้ ขณะนี้มีความพยายามสร้างกระแสในสังคมออนไลน์ เพื่อให้เกิดความเกลียดชังระหว่างคนต่างความเชื่อจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ จึงอยากให้ประชาชนไตร่ตรองข่าวสาร และขอให้อย่าตกหลุมพลางของผู้ก่อเหตุที่ต้องการสร้างความแตกแยก ซึ่งในขณะนี้ ทางกองทัพภาคที่ 4 ได้แจ้งเตือนไปยังผู้นำศาสนาอิสลามผ่านฝ่ายปกครอง เนื่องจากทุกครั้งที่เกิดเหตุลักษณะนี้ มักจะมีการยิงตอบโต้ผู้นำศาสนาที่ต่างความเชื่อเพื่อสร้างรอยร้าว พร้อมยืนยันจะเร่งนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็วที่สุด
ด้าน นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุกรณีกลุ่มก่อเหตุไม่สงบภายในวัดรัตนานุภาพ จ.นราธิวาส ทำให้พระมรณภาพ 2 รูป ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้กำลังใจประชาชนและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมทั้งกำชับให้เร่งสอบสวนหาข้อเท็จจริงและติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุให้ได้ โดยย้ำว่ารัฐบาลจะปกป้องประเทศชาติและประชาชนด้วยการรักษาความสงบเรียบร้อยให้ดีที่สุด พร้อมสั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะจุดเสี่ยงต่างๆ และเยียวยาครอบครัวที่ได้รับผลกระทบอย่างดีที่สุด
ส่วนที่ จ.ยะลา เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มกำลังดูแลความปลอดภัยพระสงฆ์ที่ออกบิณฑบาต โดยได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนจำนวน 2 นาย ติดตามตลอดเส้นทางการบิณฑบาต และจัดกำลังทหาร และตำรวจ ประจำจุดที่พระจะเข้ารับบิณฑบาต โดยเฉพาะในย่านถนนผังเมือง 4 ซึ่งเป็นย่านที่ชาวไทยพุทธมารวมตัวเพื่อใส่บาตร รวมถึงดูแลวัดอย่างเข้มงวด
สำหรับเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงสับดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ก่อเหตุมักแต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่ก่อนออกปฏิบัติการ ทำให้กองทัพภาคที่ 4 ได้ออกประกาศห้ามประชาชนแต่งกายด้วยเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ หรือแต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่ เพื่อป้องกันความสับสน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
“ต้องการสร้างความแตกแยก” โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ชี้เหตุจูงใจยิงพระ