วันนี้ (6 ก.พ.2562) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ใช้โอกาสในการแถลงนโยบายประจำปีต่อสภาคองเกรส ประกาศว่าจะหารือกับ คิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ครั้งที่ 2 วันที่ 27-28 กุมภาพันธ์นี้ ที่เวียดนาม หลังจากเข้าร่วมการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว
นอกจากนี้ ยังแสดงจุดยืนเกี่ยวกับการสร้างกำแพงกั้นพรมแดนทางตอนใต้ระหว่างสหรัฐอเมริกากับเม็กซิโก เพื่อป้องกันกลุ่มผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย พร้อมทั้งเรียกร้องให้นักการเมืองจากพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตยุติการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายและหันมาร่วมมือกันพัฒนาประเทศ
ผู้นำสหรัฐอเมริกาเน้นย้ำแผนการถอนทหารออกจากซีเรียและอัฟกานิสถาน เนื่องจากสหรัฐอเมริกาสูญเสียกำลังพลไปกว่า 7,000 นาย และงบประมาณมากกว่า 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อมทั้งเปิดเผยว่า สหรัฐอเมริกาได้หารือกับกลุ่มตอลีบานในอัฟกานิสถาน เพื่อหาทางยุติความขัดแย้ง
สำหรับการแถลงนโยบายประจำปีต่อสภาคองเกรสในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากหน่วยงานภาครัฐบางส่วนในสังกัดรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเผชิญกับการปิดทำการชั่วคราวนานถึง 35 วัน ซึ่งถือเป็นการปิดทำการที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ เนื่องจากผู้นำสหรัฐอเมริกางัดข้อกับสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากเกี่ยวกับการสร้างกำแพงกั้นพรมแดน