วันนี้ (13 ก.พ.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน พร้อมกับชาวบ้าน ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก เดินทางไปยื่นคำร้องต่อศาลปกครองพิษณุโลก เพื่อขอเพิกถอนบ่อขยะและฟ้องนายกเทศมนตรีเทศบาล ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ฐานใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเทศบาล ต.หัวรอ ได้อนุญาตให้ผู้ประกอบการเอกชนเข้ามาดำเนินธุรกิจรับฝังกลบขยะจากเทศบาล ต.หัวรอ และขยะจากเทศบาลนครพิษณุโลก โดยนำมาทิ้งยังบ่อขยะของเอกชนดังกล่าววันละประมาณ 120 ตัน ซึ่งบ่อขยะตั้งอยู่ในพื้นที่กลางทุ่งนา มีความเสี่ยงจากน้ำท่วม อยู่ใกล้กับวัดบ่อทองคำเพียง 70 เมตร อยู่ใกล้แหล่งน้ำชลประทาน 10 เมตร และใกล้แหล่งผลิตน้ำประปาของชุมชนเพียงประมาณ 400 เมตรเท่านั้น
ซึ่งต้องห้ามตามประกาศของกรมควบคุมมลพิษ
ขณะเดียวกัน ยังไม่เป็นไปตามประกาศของกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยขยะ พ.ศ.2560 อีกทั้งมีการบิดเบือนการรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านว่าจะเป็นการกำจัดขยะแบบ RDF แต่พอมาดำเนินการจริงกลับเป็นแบบฝังกลบ ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญของการรับฟังความคิดเห็นที่ไม่เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน พ.ศ.2548 อีกทั้งเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 43, 57 ประกอบมาตรา 53 อีกด้วย
นอกจากนี้ พื้นที่รอบบ่อขยะมีชุมชนอยู่อาศัยกันอย่างหนาแน่น ซึ่งชาวบ้านโดยรอบพื้นที่บ่อขยะพยายามร้องเรียนให้นายกเทศมนตรีระงับบ่อขยะดังกล่าวเสีย เพราะเริ่มส่งกลิ่นเหม็นรบกวนชาวบ้าน และชุมชนต่างๆ และหมู่บ้านจัดสรรที่รายล้อมอยู่รอบบ่อขยะ จนบางคนทนอยู่ไม่ได้ต้องส่งบุตรหลานให้ไปอาศัยอยู่กับญาติในพื้นที่อื่น เพราะกระทบต่อการเล่าเรียน แต่ปัญหาดังกล่าวนายกเทศมนตรี ต.หัวรอ และหน่วยงานราชการต่างๆ ใน จ.พิษณุโลก กลับทำทองไม่รู้ร้อน โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด
ดังนั้น เมื่อชาวพิษณุโลกเดือดร้อน และหน่วยงานในจังหวัดไม่ยอมแก้ไข ชาวบ้านจึงร้องขอให้สมาคมฯ ช่วยมาเป็นธุระฟ้องเพิกถอนบ่อขยะดังกล่าวในวันนี้ โดยในวันนี้ได้มีคำร้องขอให้ศาลไต่สวนเพื่อมีคำสั่งให้ความคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาด้วย และหลังจากนี้จะดำเนินการไปร้องเรียนกับ ป.ป.ช.และ สตง. เพื่อเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป