วันนี้ (8 เม.ย.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องดูดฝุ่น PM 2.5 หรือ ยักษ์เขียว ของกลุ่มจิตอาสาวิจัยและพัฒนาพลังงานเพื่อการจัดการภัยพิบัติ จ.ขอนแก่น ที่ติดตั้งไว้บริเวณลานข่วงประตูท่าแพ จะเปิดเดินเครื่อง 100 เปอร์เซ็นต์ในเวลา 12.00 น.
หลังจากเดินทางมาถึงจังหวัดเชียงใหม่เมื่อวานนี้ และได้ติดตั้งเครื่องพร้อมทดลองเดินเครื่องดูดฝุ่น PM 2.5 พบว่าประมาณค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จาก 70 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เหลือ 32 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
นายพัฒน์พงษ์ ภู่สิงห์ กลุ่มจิตอาสาวิจัยและพัฒนาพลังงานเพื่อการจัดการภัยพิบัติ จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า เครื่องดูดฝุ่น PM 2.5 มีคุณสมบัติดูดฝุ่น PM 2.5 ในรัศมี 2-3 ตารางกิโลเมตร สามารถช่วยฟอกอากาศได้ 7 แสนลูกบาศก์คิวต่อวัน ใช้พลังงานไฟฟ้าจากโซลาเซลล์ และระบบกระแสไฟฟ้าทั่วไป เครื่องดังกล่าวใช้งบประมาณตัวละ 4 แสนบาท
ทั้งนี้ การทำงานแบ่งเป็น 3 ส่วน ด้านบนเป็นตัวดูดอากาศ อากาศจะเข้าสู่ระบบบำบัดด้วยพัดลมและระบบน้ำ เพื่อสลายฝุ่นละอองด้วยหลักวิศวกรรม และบริเวณด้านล่างเป็นส่วนปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกมา พร้อม ๆ กับจัดเก็บตะกอนและน้ำเสีย
ชาวจังหวัดขอนแก่น ที่ลำเลียงมาถึงจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ครับ และจะเปิดเดินเครื่องได้ในช่วงเที่ยงนี้ครับ
เชียงใหม่ได้รับผลกระทบเยอะ เผากันตลอด เราจึงเลือกมาที่นี่ เพื่อคืนอากาศบริสุทธิ์ ในฐานะที่เราเป็นคนไทยคนหนึ่ง เราจะผลักภาระให้หน่วยงานนั้น หน่วยงานนี้รับผิดชอบ คงเป็นไปไม่ได้ คงต้องร่วมแรงร่วมใจกัน เรายืนมือมาช่วยกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้จังหวัดเชียงใหม่ ยังพบจุดความร้อน หรือ hot spot 46 จุด ในพื้นที่อำเภอพร้าว เวียงแหง จอมทอง และแม่ริม ส่วนใหญ่เกิดในป่าลึกเป็นการเผาเพื่อล่าสัตว์และหาของป่า จุดใหญ่สุดอยู่ที่อำเภอแม่ริม ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งดับไฟ
เดินเครื่อง 100 % พบฝุ่นลดลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเดินเครื่องดูดฝุ่น PM 2.5 อย่างเต็มที่ พบว่าค่าฝุ่นค่อย ๆ ลดลงอย่างเห็นได้ชัด จาก 84 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เหลือประมาณ 60 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
เครื่องดูดฝุ่น PM 2.5 จะติดตั้งไว้ที่จังหวัดเชียงใหม่จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ชาวเชียงใหม่ ระบุว่า อยากให้หน่วยงานในพื้นที่ต่อยอดผลิตเครื่องตัวนี้ และผลิตเครื่องขนาดเล็ก ซึ่งอาจจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการป้องกันตัวเองของชาวบ้าน และเป็นหนึ่งทางออกในการแก้ปัญหาในอนาคต
จ.เชียงราย ยังเร่งดับไฟป่า
ข้อมูลดาวเทียมของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิ สารสนเทศ พบจุดความร้อนในพื้นที่ภาคเหนือลดลงอย่างต่อเนื่อง เช้าวันนี้พบจุดความร้อน 305 จุด มากสุดอยู่จังหวัดแม่ฮ่องสอน 94 จุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย มีจุดความร้อน 22 จุด เป็นจุดเดิมที่ดับไม่สนิท 10 จุด และจุดใหม่ 12 จุด โดยเชื่อว่าเกิดจากการมีผู้ลักลอบเผาเพื่อหาของป่า ล่าสัตว์ คึกคะนอง และกลั่นแกล้งเจ้าหน้าที่ เกิดแล้วลุกลามในบริเวณพื้นที่สูงชัน
เบื้องต้นมีการจัดชุดลาดตระเวนจุดเสี่ยงไฟป่าและติดตั้งกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเป็นหลักฐาน รวมทั้งยึดรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ริมป่า โดยหากเกิดไฟขึ้นจะเรียกชาวบ้านมาร่วมกันดับ และประณามการกระทำที่ก่อให้เกิดไฟป่า นอกจากนี้ยังเตรียมส่งเสริมการปลูกพืชทดแทน ลดการค้าของป่า
ทั้งนี้ ผลการดำเนินการอย่างเข้มข้นในห้วงวันที่ 3-7 เมษายนที่ผ่านมา สามารถจับกุมดำเนินคดีผู้ลักลอบเผาป่า 4 คดี พื้นที่เสียหาย 134 ไร่
นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า มีความมั่นใจที่การปฏิบัติการยุติไฟป่าและฝุ่นควันจะสำเร็จได้ ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน แต่ก็ยังพบมีการเผาในหลายจุด จึงให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 3 คน ลงพื้นที่ เพื่อให้มีการดับไฟโดยทันที และป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำอีก
พร้อมยอมรับว่าไฟไหม้บางจุดอยู่บนพื้นที่สูง ยากต่อการดับได้โดยง่าย ซึ่งมณฑลทหารบกที่ 37 ได้สนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ช่วยดับไฟป่า แต่เมื่อดับจุดเดิมแล้ว ก็ยังพบการเผาไมหม้ยังจุดอื่นๆอีก