ยังไม่แน่ชัดว่าเหตุผลที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงนามคำสั่งที่ 232 /2562 ให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ บิ๊กโจ๊ก หลุดจากตำแหน่งมาจากเรื่องการโยกย้ายนายตำรวจ
แต่การทำบัญชีแต่งตั้งตำรวจที่ผ่านมา แวดวงตำรวจต่างรู้กันดีว่า ใครคือผู้จัดทำบัญชีตัวจริง ทั้งนายตำรวจยศพลตำรวจโทผู้มากบารมี พลตำรวจตรีระดับรองผู้บัญชาการ อีกอย่างน้อย 2 คน ร่วมในเครือข่าย ท่ามกลางเสียงวิพากษ์ วิจารณ์ เรื่องการเรียกรับเงิน
บัญชีแต่งตั้งล่าสุดที่เกิดความปั่นป่วน มีการถอนคำสั่งสับเปลี่ยนตำแหน่ง จนนายตำรวจนับร้อยนายถึงกับชะงัก เพราะสภาพการวิ่งเต้นยังไม่เสร็จสิ้น มีนายตำรวจบางส่วนที่ยังไม่ได้ตำแหน่งตามข้อตกลง บางส่วนรายชื่อไปลงผิดที่ จนเกิดปัญหาการถอนคำสั่ง
พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ ยี่สารพัฒน์ นายเวร พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ คำสั่งแรกเป็นผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 4 ถูกถอนรายชื่อออก แล้วแต่งตั้ง พ.ต.ท.เศรษฐภัทร ณ สงขลา รองผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองศรีสะเกษมานั่งแทน แต่สุดท้าย พล.ต.อ.สุชาติ ต้องยืนยันรายชื่อ พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ กลับไปตามคำสั่งแรก เป็นระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ต้องแก้คำสั่งลูกน้องของตัวเอง
พ.ต.อ.คณบดี เลิศอมรศักดิ์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 คำสั่งแรกเป็นผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย แต่ถูกถอนคำสั่งเปลี่ยนไปเป็นผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรมวกเหล็ก จ.สระบุรี
พ.ต.อ.เจษฐา สว่างสุข ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลสุวินทวงศ์ คำสั่งแรกเป็นผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลหนองแขม มีการถอนคำสั่งและเปลี่ยนไปเป็นผู้กำกับการตำรวจนครบาลพหลโยธิน
นอกจากนี้ ยังมีการแก้ไขคำสั่งระดับรองสารวัตรขึ้นเป็นสารวัตร ของนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 65 กลุ่มแรกๆ ของรุ่น กว่า 80 นาย ที่โผแรกลงตำแหน่งหลัก เช่น สารวัตรปราบปราม สารวัตรจราจรและสารวัตรสืบสวน ให้กลับไปเป็นสารวัตรสอบสวนตามโรงพักทั่วประเทศ โดยผู้มีอำนาจอ้างว่า เป็นการฝึกงานสอบสวนที่ยังขาดบุคลากรด้านนี้