ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้รัฐบาล เตรียมแผนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งแจกเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ 1,500 บาท เพื่อท่องเที่ยวเมืองรอง ขยายวงเงินช็อปช่วยชาติ ลดดอกเบี้ยลูกหนี้ กยศ. คาดว่า อาจใช้เงินมากกว่า 2 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ประชาชนบางส่วนกลับมองว่า มาตรการกระตุ้นการบริโภคของรัฐบาล มักกำหนดเงื่อนไข ขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการที่ยุ่งยากเกินไป และมีเงื่อนไขการใช้สิทธิ์จำนวนมาก จนอาจเป็นอุปสรรคต่อการนำมาปฏิบัติใช้จริง จึงอาจไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
หากเปรียบเทียบกับมาตรการช็อปช่วยชาติ ช่วงตรุษจีน ซึ่งกำหนดเงื่อนไขลงทะเบียนก่อนเข้าร่วมโครงการ ซ้ำยังกำหนดประเภทสินค้า ที่ไม่ตรงกับความต้องการ ก่อนเสนอให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณ ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย มากกว่าจะนำมาแจกเงินเพื่อการท่องเที่ยวเช่นที่กำลังพิจารณาอยู่
ขณะที่นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ออกแบบไว้ ยังมีรายละเอียด ที่ต้องศึกษาผลกระทบให้รอบด้าน อีกทั้งยังต้องเสนอนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีพิจารณาก่อน จึงอาจเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาไม่ทันสัปดาห์หน้า
ในการออกมาตรการช็อปช่วยชาติระยะหลัง กระทรวงการคลัง มักกำหนดเงื่อนไข การลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ และจำกัดขอบเขตการใช้สิทธิ์ ให้ชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และร้านค้าที่ต้องมีเครื่องรับชำระเงินอิเล็คทรอนิกส์ หรือ ติดตั้งแอปพลิเคชันรองรับ ตลอดจนจำกัดประเภทสินค้า ส่งผลให้มาตรการช็อปช่วยชาติ ช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ประมาณ 2 หมื่นคน ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมาย 1 แสนคน ทั้งที่มีการขยายเวลาเปิดรับลงทะเบียน และเพิ่มจำนวนบัตรเดบิตที่สามารถเข้าร่วมโครงการต่อรายแล้วก็ตาม