เพจ Drama-addict เปิดเผยเรื่องราวของอดีตผู้ติดเชื้อซิฟิลิสคนหนึ่ง ที่ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรักษาต่อเนื่อง หลังตัดสินใจไปรับการตรวจโรคที่โรงพยาบาล ซึ่งข้อความดังกล่าวระบุว่า
"ตัวผมเองติดเชื้อซิฟิลิส ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการรักษาต่อเนื่อง อยากฝากบอกสำหรับผู้ที่ไม่แน่ใจตัวเอง หรือเป็นแล้วแต่ยังหลอกตัวเองอยู่ว่าไม่เป็น ให้รีบไปหาหมอเพื่อเริ่มทำการรักษา หมอบอกผมว่ามันหายขาดได้ ตัวผมเองหลอกตัวเองว่าไม่เป็นจนมันเข้าสู่ระยะแสดงอาการ แผลขึ้นมาเต็มหน้า เต็มมือ ตรงอวัยวะเพศก็ขึ้น ผมร่วงจนบางไปเลย จนได้ตัดสินใจไป รพ.รัฐใกล้บ้าน ไปถึงก็ขอกระดาษกับปากกามาเขียน ขอตรวจ HIV กับซิฟิลิส กับเจ้าหน้าที่หน้าห้องตรวจ เขาโทรหาพยาบาลที่เกี่ยวข้องกับโรคเหล่านี้โดยเฉพาะมาตรวจผม มาเจาะเลือดโดยไม่แปะชื่อและรหัสผู้ป่วยไปส่งตรวจแล้วรอรับเองเลย เป้นคนฉีดยาฆ่าเชื้อซิฟิลิสให้ด้วย
ตอนนี้กลายเป็นคนที่มีภาวะเป็นเชื้อราในสมองจากการติดเชื้อซิฟิลิส แต่ยังอยู่ในการรักษาต่อเนื่องจนดีขึ้น ทั้งแผลตามร่างกายก็หายไปเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นภายใน 2-3 เดือน เส้นผมที่ร่วงจนบางก็งอกขึ้นมาหนาเหมือนเดิม ผมลองมานึกย้อนกลับไป ถ้าวันนั้นไม่ตัดสินใจขอตรวจ ป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้"
หลังจากมีการเผยแพร่เรื่องดังกล่าว ก็มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยหนึ่งในผู้แสดงความคิดเห็น ได้ระบุว่า มีเพื่อนรุ่นน้องป่วยซิฟิลิสขึ้นปอด ตอนนี้กำลังจะเสียชีวิต เพราะปอดเหลือเพียง 15%
"ซิฟิลิส" ระบาดอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊ก Bangrak STIs Center (โรงพยาบาลบางรัก) โพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับการกลับมาระบาดของโรคซิฟิลิส ซึ่งเรียบเรียงโดย พญ.ธันยนันท์ กังวาฬพรโรจน์ ระบุว่า ขณะนี้ ในประเทศไทยมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์กลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง พร้อมแสดงกราฟการเพิ่มจำนวนของผู้ที่ติดเชื้อซิฟิลิส โดยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์พบมากที่สุดในกลุ่มของวัยรุ่น ช่วงประมาณมัธยมถึงมหาวิทยาลัย แต่อย่างไรก็ตามซิฟิลิสก็พบได้ในทุกเพศทุกวัยและพบได้ในทุกจังหวัด รวมถึงเด็กแรกเกิดที่เกิดจากแม่ที่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นซิฟิลิส
อาการของซิฟิลิส หลังจากติดเชื้อผู้ป่วยจะมีแผลริมแข็ง ไม่เจ็บ ขึ้นที่อวัยวะเพศ หลังจากนั้นแผลสามารถหายได้เอง ผ่านไปสักพักจะกลายเป็นระยะที่ 2 มีผื่นขึ้นตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า บางคนขึ้นตามตัว มีผมร่วงเป็นหย่อมๆ และแผลที่อวัยวะเพศเรียกว่า condyloma lata ซึ่งบางคนอาจจะไม่มีอาการ ขณะที่บางคนมีแค่บางอาการ แล้วก็หายไปในที่สุด หลังจากนั้นเชื้อจะยังอยู่ในร่างกายไปเรื่อยๆ จนถึงระยะที่ 3 ที่กินเวลาไปเป็น 10 ปี เชื้อยังทำให้กลายเป็นซิฟิลิสที่หลอดเลือดหัวใจ ในสมอง กินเข้ากระดูกได้
โรคซิฟิลิสสามารถรักษาให้หายได้ ส่วนวิธีป้องกันคือไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย และควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย แต่หากมีความกังวล หรือมีอาการผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจและรักษา พร้อมแนะนำว่าอย่าปล่อยทิ้งไว้และซื้อยามารับประทานเอง
ขณะที่เพจ "เรื่องเล่าจากโรงหมอ" ก็ได้โพสต์ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว หลังพบซิฟิลิสในหญิงท้องแฝดอายุต่ำกว่า 15 ปี กับแฟนอายุไล่เลี่ยกัน ซึ่งจากประสบการณ์ตรงที่ดูแลคนไข้ท้อง พบเคสซิฟิลิสทุกสัปดาห์ บางคนมาพร้อมกับ HIV และพบในคนไข้ที่มีอายุน้อยลง สะท้อนให้เห็นว่าความระมัดระวัง ความหวาดกลัว ความพยายามป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของคนในสังคมลดลง
นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลว่าการติดซิฟิลิสของทารกในครรภ์ ทำให้เกิดการแท้งและความพิการแต่กำเนิดต่างๆ และอาจมีอาการผิดปกติรุนแรงหลังจากคลอดได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
แพทย์เผยวัยรุ่น 15-24 ปี ป่วยโรคทางเพศสัมพันธ์มากสุด