วันนี้ (31 พ.ค.2562) เวลา 11.00 น. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ แถลงเปิดใจครั้งแรกหลังจากมีกระแสข่าวลือว่าจะนำ ส.ส.30 คนไปร่วมกับพรรคอื่น เพราะไม่พอใจการจัดสรรโควต้าเก้าอี้ โดยยืนยันว่าคนที่ไม่เข้าใจการเมืองอาจจะเกิดความเข้าใจผิดว่า ตัวเองและเพื่อนเป็นคนเกเร ตีรวนในการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคพลังประชารัฐ แต่ข้อเท็จจริงนั้นการทำงานและพูดคุยในเรื่องกระทรวงต่าง ๆ คณะกรรมการบริหารพรรคได้มอบให้หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคดำเนินการ ซึ่งมีการปล่อยข่าวมาตลอด แต่การที่มาพูดว่าเรื่องประโยชน์ไม่ลงตัว แล้วพาพรรคพวกย้ายไปสังกัดอื่น ทำให้ตัวผมเองเสียหาย
ผมทำการเมืองมามีปัญหาน้อยที่สุด และมีศักดิ์ศรี เราต้องยึดหลักที่ผ่านมาในอดีต ผมอยู่กับพรรคกิจสังคมและแยกย้ายจากกันไป และในพรรคไทยรักไทยก็ถูกยุบ และพรรคพลังประชารัฐ แม้จะมีเปรี้ยวหวานมันเค็มผสมกัน อย่างไรก็ไม่คิดหนีหายไปจากพลังประชารัฐ และปักหลักที่นี่ตลอดไป
นายสมศักดิ์ ยืนยันว่า ไม่เคยปล่อยข่าวทำร้ายผู้ใด ส่วนข่าวที่ถูกปล่อยออกไปนั้น เชื่อว่าเป็นคนที่ประสงค์ให้เกิดความไม่สงบและเกิดความเกลียดชัง ทำลายทั้งทางตรงและทางอ้อม
เมื่อถามว่ามีการเตะตัดขาภายในพรรคหรือไม่ ตนเองไม่ได้คิดว่าคนในพรรคและนอกพรรคเป็นใคร แต่ต้องปล่อยให้เป็นไปตามนิสัยของบุคคลที่ไม่ใช่สุภาพบุรุษ
เรามีศักดิ์ศรีพอที่จะไม่คิดทำอย่างนั้น ผมเป็นคนพูดปากตรงกับใจ คิดแล้วทำเลย ไม่เคยคิดจะทำร้ายใคร ที่มีคนปล่อยข่าว ตลอดเวลาก็ปล่อยเขา และข้อดีคือเขาคงเห็นความสำคัญของเราและสร้างให้เราเป็นแกนแห่งความวุ่นวาย
ยืนยันไม่สนใจตำแหน่ง-รอมติพรรค
นายสมศักดิ์ ยังเชื่อมั่นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี และหากระบบพรรคเข้มแข็ง มีระบบที่ผ่อนสั้นผ่อนยาวให้สมดุล ก็จะมีความมั่นคงในรัฐบาล แม้ว่าหลายคนบอกว่ารัฐบาลจะอยู่ได้อายุน้อย แต่บางครั้งรัฐบาลที่มีเสียงมหาศาลก็พ่ายแพ้โหวตได้ ขอให้ช่วยกันดูแลบริหารให้ทั่วถึงทั้งในสภาและนอกสภา
ส่วนกรณีที่สื่อบางสำนักสรุปว่าตนเองพูดถึงผลประโยชน์ในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่วนตัวมองว่า หากพูดถึงผลประโยชน์มันสิ่งที่ชั่วร้าย แต่หากเห็นว่าผลประโยชน์เป็นของประชาชนคนยากจน และกลุ่มผลประโยชน์ส่วนใหญ่ของประเทศไม่ใช่เรื่องน่าเกลียดน่ากลัว แต่ไปสรุปว่าแย่งประโยชน์กันนั้นไม่ใช่ เพราะนักการเมืองที่ดีจะมองคนส่วนใหญ่เพื่อให้เกิดเสมอภาค และทุกพรรคมีนโยบาย สัจจะวาจาที่ให้ไว้กับประชาชน ให้ชนบทมีความเป็นอยู่ที่ดี การกระจายรายได้ต้องไปสู่ประชาชนอย่างทั่วถึง ไม่ควรต้องทำให้เกิดความวุ่นวาย เพราะประเทศขาดความเป็นประชาธิปไตยมานานแล้ว ต้องรักษาและควรเดินหน้าต่อไป
ผมไม่มีปัญหาเรื่องตำแหน่ง แต่พยายามทวงถามเกี่ยวกับนโยบายและการพบปะพี่น้องในการลงไปหาเสียงเท่านั้น ข้อสรุปจะออกมาอย่างไรอยู่ที่กรรมการบริหารพรรค แต่ผลจะออกมาอย่างไรขึ้นกับมติพรรค
ไม่สนคุณหญิงสุดารัตน์กรวดน้ำคว่ำขัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย ระบุบอกว่า ขอกรวดน้ำคว่ำขันไปแล้วให้ไปลับ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ได้ยินกับหูตัวเองว่าคุณหญิงสุดารัตน์พูดแบบนั้น แต่มาคิดดูว่าเป็นลักษณะเหมือนภาษิตว่ามะนาวหวาน องุ่นเปรี้ยว
คุณหญิงสุดารัตน์ ก็เคยไปพบ และเชิญที่บ้านก่อนการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา แต่ตัดสินใจไม่ไป วันนี้องุ่นเปรี้ยว มะนาวหวาน สิ่งที่คุณหญิงสุดารัตน์พูด บางคำพูดไม่คิดว่าเป็นถึงคุณหญิงจะพูดอะไรที่ดูแล้วไม่น่าจะเป็นคำพูดของท่าน แต่ก็ได้ยินคนใน พท.พูดถึงท่านเหมือนที่ท่านพูดถึงตัวเองเหมือนกัน