นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ระบุถึงความคืบหน้าในการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐว่า พรรคส่งรายชื่อผู้เหมาะสมในแต่ละกระทรวงที่พรรคดูแลอยู่ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาแล้ว ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ คาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีความคืบหน้าและทยอยส่งรายชื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ โดยเชื่อว่า ครม.ชุดใหม่จะพร้อมปฏิบัติงานในช่วงต้นเดือน ก.ค.2562
นายสนธิรัตน์ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะมาเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และเปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรคเป็นนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ว่า ยังไม่มีการเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นหัวหน้าพรรค เพราะถือว่ายังเร็วไปในช่วงนี้ แต่ก็เป็นไปได้ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค หรือเป็นหัวหน้าพรรค เพื่อให้การทำงานของพรรคและนายกรัฐมนตรีเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ส่วนความคืบหน้าการร่างนโยบายรัฐบาล นายสนธิรัตน์ระบุว่า ล่าสุดพรรคพลังประชารัฐได้จัดทำนโยบายเสร็จแล้ว โดยได้นำนโยบายที่พรรคหาเสียงมาขึ้นโครงร่างและเรียงลำดับความสำคัญของนโยบาย ก่อนทำร่างเบื้องต้น โดยจะเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือและนำนโยบายของพรรคร่วมร้อยเรียงสรุปเป็นร่างนโยบายรัฐบาล เพื่อเตรียมแถลงต่อรัฐสภา
ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่มีปัญหาทางกฎหมาย หรือกระทบต่อการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี หาก พล.อ.ประยุทธ์ สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐและนั่งหัวหน้าพรรค ส่วนความคืบหน้ารายชื่อ ครม.ชุดใหม่ ยังไม่ทราบ เพราะเป็นหน้าที่ของเลขาธิการ ครม.จะต้องตรวจสอบคุณสมบัติว่าที่รัฐมนตรีและคู่สมรส ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 วันทำการ โดยเฉพาะกรณีการถือครองหุ้นสื่อ
"ประวิตร" ยังไม่ชี้ชัดควบ 2 ตำแหน่ง
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรับมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังคงไม่ตอบรับหรือปฏิเสธว่าจะยังมีชื่อเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ใน ครม.ประยุทธ์ 2/1 หรือไม่ หลังออกตัวว่า "ผมทำงานเพื่อชาติมา 50 ปี ถ้าให้ทำต่ออีก 4 ปี ก็ตายแน่" แต่ระบุเพียงว่า หากได้ตำแหน่งก็พร้อมทำหน้าที่ และเวลานี้เป็นการตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์ เพียงคนเดียว ซึ่งยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน