วันนี้ (12 ก.ค.62) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า ได้สรุปกรณีเยียวยา 7 ช่องทีวีดิจิทัล ที่ขอคืนใบอนุญาตแล้วทั้งหมด โดย กสทช.ต้องจ่ายเงินชดเชยรวม 2,932.68 ล้านบาท แบ่งเป็นช่อง 19 หรือ ช่อง Spring News จะออกอากาศวันสุดท้ายในวันที่ 15 ส.ค. จำนวนเงินค่าชดเชยกว่า 500 ล้านบาท ช่อง 26 หรือ ช่อง NOW คงเหลือเงินค่าชดเชย 675 ล้านบาท และไบรท์ทีวี ช่อง 20 ออกอากาศวันสุดท้ายในวันที่ 15 ส.ค. เช่นกัน โดยคงเหลือเงินค่าชดเชยสุทธิจำนวน 371 ล้านบาท
ส่วนวอยซ์ ทีวี ช่อง 21 จะออกอากาศวันสุดท้ายในวันที่ 31 ส.ค. คงเหลือเงินค่าชดเชย 378 ล้านบาท ส่วนช่อง 14 หรือช่อง MCOT Family จะออกอากาศวันสุดท้ายในวันที่ 15 ก.ย. คงเหลือเงินค่าชดเชย 163 ล้านบาท ขณะที่ช่อง 28 หรือ ช่อง 3SD จะออกอากาศวันสุดท้ายในวันที่ 30 ก.ย. คงเหลือเงินค่าชดเชย 680 ล้านบาท และ ช่อง 13 หรือ ช่อง 3 Family จะออกอากาศวันสุดท้ายในวันที่ 30 ก.ย. คงเหลือเงินค่าชดเชย 162 ล้านบาท หลังจากยุติการออกอากาศแล้ว ในวันถัดไปทีวีดิจิทัลที่ขอยุติการออกอากาศ สามารถขอรับเงินค่าชดเชยดังกล่าวกับสำนักงาน กสทช.ได้ทันที เพื่อให้ กสทช.รีบพิจารณาดำเนินการให้โดยเร็ว
ส่วนแผนการเลิกจ้างพนักงานของแต่ละช่องที่ได้เสนอต่อ กสทช. ยืนยันว่า ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ของกฎหมาย โดยมีการจ่ายชดเชยตามอายุงาน ล่าสุดเมื่อวานนี้(11 ก.ค.) ช่อง 3 ได้เริ่มส่งหนังสือเลิกจ้างกับพนักงานบางส่วนแล้ว โดยมีรายงานว่าอาจมีการเลิกจ้างมากถึง 200 คน
ก่อนหน้านี้นายอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด มหาชน เปิดเผยว่า จำเป็นต้องเลิกจ้างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะปริมาณคนมากกว่าปริมาณงาน มีรายงานว่านายอริยะ ชี้แจงเป็นการภายในกับพนักงานว่า บีอีซีมีความจำเป็นต้องตัดสินใจคืนใบอนุญาตเป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุดของคณะกรรมการและผู้บริหาร เพราะส่งผลกระทบมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อเพื่อนพนักงาน
การเลิกจ้างเป็นสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นแต่เป็นความจำเป็น โดยได้จัดให้มีค่าชดเชยสำหรับพนักงานให้มากที่สุดเท่าที่จะจัดสรรได้ และจะดีกว่าที่กฎหมายแรงงานกำหนดไว้