วันนี้ (4 ก.ย.2562) กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป รวมตัวกันด้านนอกอาคารรัฐสภาในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ร่วมกันร้องเพลงแสดงความยินดีและโบกธงสหภาพยุโรป หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษลงมติ 328 ต่อ 301 เสียง คัดค้านการแยกตัวแบบไม่มีข้อตกลงในวันที่ 31 ต.ค.นี้
ขณะที่วันนี้ (4 ก.ย.) สมาชิกพรรคเลเบอร์และพรรคคอนเซอร์เวทีฟ 21 คนที่มีจุดยืนคัดค้านการแยกตัวแบบไม่มีข้อตกลง จะร่วมกันลงมติรับรองร่างกฎหมายเลื่อนกำหนดการแยกตัว หรือ Brexit ออกไป จนถึงวันที่ 31 ม.ค.2563 ในกรณีที่ไม่สามารถตกลงกับสหภาพยุโรปได้ ภายในวันที่ 19 ต.ค.นี้
บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ
บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ
ด้านบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เตรียมยื่นญัตติขอจัดการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนด ในวันที่ 14 ต.ค.นี้ หลังจากออกมาย้ำก่อนหน้านี้ว่าการเลื่อนกระบวนการ Brexit ออกไปจะทำให้อังกฤษเสียอำนาจการต่อรอง
เจเรมี คอร์บิน ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน
เจเรมี คอร์บิน ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน
ส่วนเจเรมี คอร์บิน ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน ยืนยันว่า ผู้นำอังกฤษสามารถยื่นญัตติดังกล่าวได้ก็ต่อเมื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ลงมติผ่านร่างกฎหมายเลื่อนกระบวนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปออกไปแล้วเท่านั้น
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งแรกของบอริส จอห์นสัน หลังจากขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา และพยายามผลักดันกระบวนการแยกตัวแบบไม่มีข้อตกลงมาโดยตลอด
ขณะที่รายงานของการประชุมองค์การสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรือ อังค์ถัด ประเมินว่า การแยกตัวแบบไม่มีข้อตกลงการค้า อาจทำให้อังกฤษสูญเสียโอกาสทางการค้ากับสหภาพยุโรป เป็นมูลค่าอย่างน้อย 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 480,000 ล้านบาท