วันนี้ (6 ก.ย.2562) นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เรียกประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้บริหารโรงเรียนอนุบาลราชบุรี เพื่อเร่งแก้ปัญหากรณีนักเรียนโรงเรียนอนุบาลราชบุรี ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี เกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรงต้องทยอยนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยสงสัยเป็นโรคอาหารเป็นพิษ 517 คน โดยส่วนใหญ่มีอาการอาเจียน ปวดท้อง และถ่ายเหลว บางส่วนมีไข้และเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลมา ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย.
ทีมสอบสวนควบคุมโรค โรงพยาบาลราชบุรี ได้เข้าดำเนินการสอบสวนและควบคุมโรคในโรงเรียนโดยเข้าทำความสะอาด พร้อมทั้งเก็บอาหาร น้ำ สุ่มตรวจหาโรค และผลการตรวจเบื้องต้นพบเชื้อโนโรไวรัส (Norovirus) มาตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย.62 ซึ่งเด็กที่ป่วยนั้นบางส่วนแพทย์ให้กลับไปนอนพักที่บ้าน แต่ยังมีบางส่วนต้องนอนพักที่โรงพยาบาลราชบุรี และโรงพยาบาลเอกชนอีกหลายแห่ง รวมแล้วกว่า 20 คน
ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า ทราบว่ามีการแพร่ระบาดโรคระบบทางเดินอาหารจากเชื้อโนโรไวรัส และจากข้อมูลการป่วยจนถึงวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา พบมีนักเรียนที่ป่วย ซึ่งสันนิษฐานว่ามาจากเชื้อโนโรไวรัส จำนวน 517 คน แต่ขณะนี้แนวโน้มเด็กที่ป่วยเริ่มลดลงแล้ว และวันนี้จะรอดูอีกครั้งหนึ่ง โดยโรงเรียนพบความผิดปกติ ตั้งแต่เวลาประมาณ 3 ทุ่ม ของวันที่ 3 ก.ย. ต่อเนื่องเช้าวันที่ 4 ก.ย. ทีมสืบสวนโรคก็ได้เข้ามาตรวจสอบ พร้อมให้คำแนะนำกับโรงเรียน รวมทั้งมีการทำความสะอาด และได้สั่งหยุดนักเรียนระดับชั้นอนุบาล ซึ่งพบการแพร่ระบาดอยู่เป็นจำนวนมาก
นายชยาวุธ กล่าวอีกว่า ช่วงเที่ยงวันนี้ได้มีการจะระดมจิตอาสารณรงค์ทำบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ครั้งใหญ่ที่โรงเรียน หากยังไม่ครบถ้วนจะดำเนินการต่อในวันพรุ่งนี้ (7 ก.ย.) นอกจากนี้ได้มอบหมายให้หน่วยงานการประปาส่วนภูมิภาค เทศบาลเมืองราชบุรี ประปาหมู่บ้าน เติมคลอรีนในน้ำประปาให้เพิ่มขึ้นเป็นพิเศษในสัดส่วนที่ทางสาธารณสุขแนะนำ และยังได้ประสานไปยังสถานศึกษา สถานประกอบการต่างๆ หน่วยราชการ ต่างๆ ให้ทำความสะอาด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ขณะที่แพทย์ระบุว่า เชื้อโรคดังกล่าวไม่รุนแรงมากนัก นอกจากกลุ่มเสี่ยง คือ เด็กที่ร่างกายไม่แข็งแรง หากสูญเสียน้ำมาก อาจเกิดอาการชักได้
สำหรับโรงเรียนอนุบาลมีนักเรียนระดับชั้นอนุบาลถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 รวมทั้งหมดกว่า 3,000 คน