วันนี้ (19 ก.ย.2562) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า การรวบรวมพยานหลักฐาน คดีนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ แกนนำกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงบ้านบางกลอย จ.เพชรบุรี คืบหน้าไปร้อยละ 70 แต่ทั้งนี้ต้องรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ เช่น การตรวจสอบดีเอ็นเอ และชิ้นส่วนกระดูกที่พบเพื่อยืนยันผลอย่างละเอียดอีกครั้ง
รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยังปฏิเสธข่าว พบคนที่ชำแหละรถจักรยานยนต์ของนายพอละจี โดยยืนยันว่า ยังอยู่ระหว่างการสืบสวน และยังไม่พบรถจักรยานยนต์ รวมถึงกล้องถ่ายรูปของนายพอละจีที่หายไปด้วย
ส่วนการออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ดีเอสไอยังเร่งรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ ให้มีความรัดกุมจึงยังไม่มีการออกหมายเรียกบุคคลใดในขณะนี้และในวันที่ 26 ก.ย.ดีเอสไอจะประชุมอีกครั้งพร้อมมั่นใจว่า จะสรุปคดีได้ทันกรอบระยะเวลา 3 เดือน
นอกจากนี้ ดีเอสไอได้จัดทำรายงานความคืบหน้า กรณีการหายตัวไปของนายพอละจี รักจงเจริญ โดยมีเนื้อหา ดังนี้
รายงานความคืบหน้าคดีพิเศษที่ 13/2562 กรณีการหายตัวไปของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่
ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ชี้แจงความคืบหน้าในการสอบสวนดำเนินคดีพิเศษที่ 13/2562 กรณี นายพอละจี รักจงเจริญ (บิลลี่) สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยแม่เพรียง และแกนนำกลุ่มกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย หายตัวไปภายหลังจากที่ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจับกุมตัว พร้อมรถจักรยานยนต์ในความผิดเกี่ยวกับการนำน้ำผึ้งป่าออกจากเขตอุทยานแห่งชาติโดยผิดกฎหมาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 เม.ย.2557
วันนี้ เวลา 09.00 น.พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เชิญคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและที่ปรึกษาคดีพิเศษ ประชุมเพื่อติดตามผลการดำเนินการตามที่ได้มอบหมายให้ไปรวบรวมหลักฐานในประเด็นต่าง ๆ ซึ่งในวันนี้ได้รับรายงานจากคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษว่าการรวบรวมหลักฐานตามประเด็นที่มอบหมายมีความคืบหน้าไปมากที่สำคัญมี ดังนี้
1.ให้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เร่งรัดประสานงานสำนักงาน ป.ป.ช.เพื่อขอรับสำนวนการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ท.กรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีมีการจับกุมตัวนายพอละจี ฯ ในความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติฯ แล้ว ไม่ดำเนินคดี โดยอ้างว่าปล่อยตัวไปที่ส่งมอบให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.มาเพื่อรวมเรื่องดำเนินการโดยเร็ว
2.มีการสอบสวนพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นพยานแวดล้อมจำนวนหนึ่ง และมีการประสานกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และศูนย์พิสูจน์หลักฐานภาค 7 เพื่อติดตามผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งการดำเนินการใกล้เสร็จสิ้นและจะออกรายงานการตรวจพิสูจน์เพื่อส่งมอบให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษต่อไป
3.ที่ประชุมมีกำหนดนัดประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และที่ปรึกษาคดีพิเศษ เพื่อติดตามความคืบหน้าในประเด็นที่มอบหมายอีกครั้งในวันที่ 26 ก.ย.2562 ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการหารือถึงรูปคดีและพยานหลักฐานที่ต้องรวบรวมเพิ่มเติม และเมื่อได้ข้อเท็จจริงครบถ้วนแล้ว จึงจะพิจารณาว่ามีพยานหลักฐานพอกล่าวหาบุคคลใด ในฐานความผิดใดบ้าง และจะได้ดำเนินการออกหมายเรียกผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาหรือร้องขอต่อศาลเพื่อออกหมายจับทันที