วันนี้ (19 ก.ย.2562) นายอนุชา ดำรงมณี กรรมการบริหาร ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร ชี้แจงการเสียชีวิตของเสือโคร่ง โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาจากสาเหตุของโรคหัดแมว ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงที่มีความชื้นสูง โดยในช่วงดังกล่าวเกิดฝนตกต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงหน้าฝนเป็นปกติที่มักเกิดเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ง่าย โดยทุกปีเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้มีการป้องกันเป็นปกติ โดยการฉีดวัคซีนให้กับเสือ
สำหรับโรคที่เกิดขึ้นกับเสือทั้ง 3 ตัว อาจเป็นเพราะมีภูมิต้านทานไม่เพียงพอ ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เพิ่มมาตรการในการป้องกันความชื้น โดยใช้ทรายโรยที่พื้นให้แห้งและใช้ปูนขาวโรยรอบพื้นที่ฆ่าเชื้อโรค เพิ่มวัคซีนให้กับเสือทุกชนิด และสามารถควบคุมโรคได้ในเวลา 1 สัปดาห์ ไม่เกิดการแพร่ระบาดแก่เสือตัวอื่น ๆ
สำหรับพาหะที่ทำให้เกิดโรคนั้นเป็นเชื้อไข้หวัดแมว เป็นเชื้อที่มาทางอากาศ ซึ่งความชื้นทำให้เชื้อเจริญเติบโตได้รวดเร็ว หรืออาจมาจากน้ำที่ไหลเข้ามา ซึ่งอาจมาจากต้นน้ำและไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามาจากแหล่งใด นี่ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ดังนั้นต้องทำพื้นที่ให้แห้งที่สุด ตอนนี้ทุกอย่างหยุดหมด ไม่มีโรคระบาด ไม่มีเสือป่วยแล้ว และโรคนี้เป็นโรคที่ไม่ติดต่อสู่คน และไม่เป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยว
สำหรับเสือที่เสียชีวิต จำนวน 3 ตัว ประกอบด้วย เสือโคร่งเบงกอล ชื่อ "ซีด" วัย 15 ปี เสือโคร่งอินโดจีน ชื่อ "ปุ่น" วัย 9 ปี และเสือโคร่งขาว วัย 6 ปี ทั้งหมดเป็นเพศเมีย