วันที่ 5 ต.ค.2562 พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวถึงกระแสสังคมที่จับจ้องฝ่ายความมั่นคง หลังจากนายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษายะลา ยิงตัวเองในศาลหลังโพสต์ขอคืนคำพิพากษาให้ผู้พิพากษาและคืนความยุติธรรมให้ประชาชน ว่า คดีนี้เป็นคดีสำคัญ แต่ไม่ใช่คดีความมั่นคง โดยเป็นเหตุใช้อาวุธปืนยิงราษฎรมุสลิมเสียชีวิต 5 คน ในพื้นที่ ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2561 โดยพนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องจำเลย 5 คน ได้แก่ นายสุกรี มูเซะ (จำเลยที่ 1) นายสะแปอิง สะเตาะ (จำเลยที่ 2) นายแวอาแซ แวยูโซะ (จำเลยที่ 3) นายมัสสัน เจะดือเระ (จำเลยที่ 4) นายอับดุลเลาะ มะสาเม็าะ (จำเลยที่ 5)
ทั้งนี้ ศาลชั้นต้นจังหวัดยะลา พิพากษาให้ยกฟ้องจำเลยทั้ง 5 คน เนื่องจากพยานและหลักฐานไม่เพียงพอให้เชื่อได้ว่าจำเลยทั้ง 5 คน กระทำความผิดจริงตามฟ้อง แต่ให้ขังจำเลยระหว่างอุทธรณ์
พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ฝ่ายทหารไม่เคยมีใครเข้าไปก้าวก่ายในกระบวนการยุติธรรม การสั่งฟ้องหรือไม่ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานและดุลยพินิจของศาล โดยมีการยกฟ้องคดีมากมาย ก็ไม่เคยปรากฏว่าผู้พิพากษาจะถูกย้าย หรือถูกปลด ไล่ออก และคงไม่มีใครที่จะมีอำนาจทำเช่นนั้นได้ พร้อมย้ำว่าอำนาจฝ่ายทหาร ฝ่ายบริหาร ไม่สามารถเข้าแทรกแซง หรือก้าวก่ายอำนาจฝ่ายตุลาการได้
ที่ผ่านมาเคยมีคำพิพากษายกฟ้องคดีความมั่นคงมากมาย ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะทุกคนเข้าใจดีว่า การใช้ดุลยพินิจ ต้องยึดมั่นพยานหลักฐานที่ทำให้ศาลเชื่อได้ว่าจำเลยได้ทำความผิดจริง