เมื่อวันที่ 6 ต.ค.2562 กระทรวงมหาดไทยอิรัก ระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากการปะทะกันระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วงเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างน้อย 104 คน ในจำนวนนี้มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงรวมอยู่ด้วย 8 นาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 6,000 คน พร้อมยืนยันว่ากองกำลังรัฐบาลอิรักไม่ได้ใช้กระสุนจริงในการปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วง หลังจากสื่อท้องถิ่นรายงานว่า เจ้าหน้าที่ใช้กระสุนจริงและแก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมจนทำให้เกิดความสูญเสีย
ขณะที่ อเดล อับดุล มาห์ดี นายกรัฐมนตรีอิรัก เรียกร้องให้ประชาชนยุติการเดินขบวนต่อต้านรัฐบาล รวมทั้งแสดงความพร้อมในการพบปะหารือกับผู้ประท้วงเพื่อรับฟังข้อเรียกร้องในการสร้างงาน, พัฒนาบริการสาธารณะและแก้ปัญหาการทุจริต
อเดล อับดุล มาห์ดี (นายกรัฐมนตรีอิรัก)
การประท้วงในหลายพื้นที่ของอิรัก เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยกลุ่มผู้ประท้วงเดินขบวนไปตามท้องถนนเพื่อแสดงพลังต่อต้านการจัดการปัญหาอัตราการว่างงานและการทุจริตของรัฐบาล นำไปสู่การก่อจลาจล ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์นองเลือดครั้งรุนแรงที่สุด นับตั้งแต่กลุ่มไอเอสยอมรับความพ่ายแพ้เมื่อปี 2560 และถือเป็นความท้าทายทางการเมืองของนายกรัฐมนตรีอิรักหลังจากขึ้นดำรงตำแหน่งเมื่อปีที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เหตุจลาจล "อิรัก" บานปลาย เสียชีวิตแล้ว 73 คน
ประท้วงต่อต้านรัฐบาลอิรักกลายเป็น “เหตุนองเลือด”