วันนี้ (7 ต.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณตรงข้ามฝั่งถนนหน้า รพ.กำแพงเพชร ต.ในเมือง อ.เมืองกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร ได้มีการขึ้นป้ายไวนิลขนาดใหญ่ในการต่อต้านการใช้สารพิษ โดยมีข้อความว่า รพ.กำแพงเพชร ร่วมต่อต้านการใช้สารพิษฆ่าหญ้า คลอร์ไพริฟอส พาราควอต ไกลโฟเซต ทุกปีมีคนป่วยจากการใช้ยาฆ่าหญ้า 14,000 คน และตายมากกว่า 600 คนต่อปี ถ้าไม่หยุดใช้วันนี้ คนที่คุณรักอาจเป็นรายต่อไป พร้อมกับมีรูปภาพสัญลักษณ์ เกษตรกรฉีดพ่นสารพิษและภาพขวดสารพิษ และข้อความด้านล้าง จำกัดการใช้ 3 สาร
สำหรับป้ายต่อต้านการใช้สารพิษฆ่าหญ้า เป็นป้ายไวนิลขนาดใหญ่ ทำให้ประชาชนที่เดินทางออกมาจาก รพ.กำแพงเพชร เห็นได้ชัด นอกจากนี้ทางภายใน รพ.กำแพงเพชร ยังร่วมรณรงค์ตลาดสีเขียว สนับสนุนสร้างเสริมสุขภาพ จัดตลาดนัดสีเขียว จะมีการคัดสรรผู้ผลิตสินค้าด้านเกษตร รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปต่าง ๆ ที่ได้มาตรฐาน เกษตรอินทรีย์ ผลิตภัณฑ์สีเขียวไร้สารเคมี ผลิตภัณฑ์สีเขียวปลอดภัยมาจำหน่าย เพื่อเป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพแก่ผู้บริโภค
จากการสอบถามนางขวัญใจ นามอินทร์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/8 ม. 3 ต.เทพนคร อ.เมืองกำแพงเพชร แม่ค้าขายผักอินทรีย์ เปิดเผยว่า
การยกเลิกใช้สารพิษเป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพของเกษตรกรเอง และผู้บริโภคก็ปลอดภัย มีสุขภาพดีทั้งคนซื้อคนขาย ส่วนผักที่ตนนำมาขายให้กับผู้บริโภคเป็นผักอินทรีย์ ที่ผ่านการคัดสรรผู้ผลิตสินค้าด้านเกษตร
เช่นเดียวกับที่ จ.พิษณุโลก บริเวณรั้วเหล็ก ข้างป้าย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ถนนอาทิตย์วงศ์ ต.ในเมือง อเมืองพิษณุโลก มีแผ่นป้ายไวนิลสีขาว สนับสนุนแบน 3 สารกำจัดศัตรูพืช ติดประกาศแสดงท่าทีจากบุคลากรสาธารณสุข โดยมีข้อความระบุในแผ่นว่า พวกเราชาว สธ.จ.พิษณุโลก สนับสนุนยกเลิกการใช้สารกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง 3 ชนิด ได้แก่ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเชต สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก
ด้านบุคลากร สาธารณสุข เปิดเผยว่า การแสดงท่าที ดังกล่าวสอดคล้องเป็นทิศทางเดียวกันกับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ทั่วประเทศที่มีความห่วงเกษตรกรและผู้บริโภค ที่จะต้องรับความเสี่ยง จากสารกำจัดศัตรูพืชปนเปื้อนที่เกิดจากใช้สารกำศัตรูพืช 3 ชนิดนี้ในประเทศ
ส่วนที่ รพ.น่าน ก็ร่วมสนับสนุนการยกเลิกการใช้สารเคมีอันตราย 3 ชนิด ได้แก่ พาราควอต, คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต เพื่อความปลอดภัยของประชาชน เพราะบุคคลากรทางการแพทย์มีความห่วงใยเกษตรกรและผู้บริโภค ที่จะต้องรับความเสี่ยงจากสารกำจัดศัตรูพืชปนเปื้อน อีกทั้งในต่างประเทศส่วนใหญ่ได้เลิกใช้สารประเภทนี้แล้ว