วันนี้ (10 ต.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังประชุมคณะอนุกรรมการบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ว่า กระทรวงการคลังได้เร่งรัดการพิจารณาบอร์ดการรถไฟฯชุดใหม่ โดยผ่านอนุกรรมการกลั่นกรองรัฐวิสาหกิจ และคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ อย่างรวดเร็ว และจะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณารายชื่อบอร์ดการรถไฟชุดใหม่ ในวันที่ 15 ต.ค.นี้
จากนั้นจะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณารายชื่อบอร์ดการรถไฟชุดใหม่ ในวันที่ 15 ต.ค.นี้ จากนั้น บอร์ดฯชุดใหม่ จะนัดประชุมพิจารณารายงานและรับทราบการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และพร้อมลงนามในสัญญากับกิจการร่วมค้า ซีพีเอช ในวันที่ 25 ต.ค.2562 โดยจะไม่มีการเลื่อนกำหนดการลงนามอีกแล้วหลังสะสางปัญหาและทำความเข้าใจกับเอกชนแล้ว
ในวันที่ 25 ต.ค.นี้ ได้ลงนามโครงการไฮสปีดแน่จะไม่มีการเลื่อนอีกต่อไปแล้ว หลังทำหนังสือนัดกลุ่มซีพีให้มาลงนามแล้ว และเท่าที่หารือนอกรอบทราบว่า เอกชนจะเดินทางมาลงนามแน่นอน
ขณะที่นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ อีอีซี กล่าวว่า บอร์ดการรถไฟฯ ทำหน้าที่เพียงรับทราบรายงานการดำเนินสัญญา แต่ไม่มีผลผูกพันในการทำสัญญา เพราะดำเนินการภายใต้กฎหมายอีอีซีจึงสามารถลงนามได้ตามกำหนด และร่างสัญญาหลักของโครงการไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ในสัญญาแนบท้ายซึ่งเกี่ยวกับการส่งมอบพื้นที่นั้นกำหนดให้เอกชนเป็นผู้ติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอง ซึ่งโดยปกติมักใช้เวลานนานและกำหนดเวลาได้ไม่ชัดเจน ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่เอกชนกังวลว่า จะกระทบการวางหุ้นและแผนการกู้เงิน กระทบต่อภาระต้นทุนการเงินในอนาคต
ขณะนี้ รัฐบาลพร้อมส่งมอบพื้นที่ดำเนินโครงการได้แล้ว ร้อยละ 72 โดยแบ่งเป็น 3 ระยะได้แก่ พื้นที่ที่พร้อมส่งมอบได้ทันที คือ บริเวณแอร์พอร์ตลิงก์ สถานีพญาไท - สนามบินสุวรรณภูมิ ระยะทาง 28 กม.จากนั้น จากสถานีสุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา ระยะทาง 170 กม.ภายใน 1 ปี 3 เดือน นับจากลงนาม ส่วนพื้นที่ผ่านเมือง ตั้งแต่สถานีพญาไท - ดอนเมือง ซึ่งเต็มไปได้จุดตัดจำนวนมากถึง 230 จุดใน 3 กระทรวง 8 หน่วยงาน
อนุกรรมการฯชุดนี้ จึงตั้งคณะทำงานการส่งมอบพื้นที่ ซึ่งมีปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานและรองปลัดกระทรวงมหาดไทย รองประธาน เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว เพราะหากให้เอกชนดำเนินการเจรจาเองอาจกระทบระยะเวลาก่อสร้างและภาพรวมโครงการอีอีซี คาดว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จะสามารถเปิดบริการเฟสแรกช่วงสถานีพญาไท - สนามบินสุวรรณภูมิ ถึงสนามบินอู่ตะเภา ภายใน ต้นปี 2567 และสถานีพญาไท - ดอนเมือง ภายในต้นปี 2568