ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ปรับแผน! ฝังซากช้างตกเหวตาย-หามส่งเจ้าหน้าที่ป่วยเข้า รพ.

สิ่งแวดล้อม
14 ต.ค. 62
08:27
723
Logo Thai PBS
ปรับแผน! ฝังซากช้างตกเหวตาย-หามส่งเจ้าหน้าที่ป่วยเข้า รพ.
เจ้าหน้าที่ชุดกู้ซากช้างตกเหวนรก เริ่มเจ็บป่วย สูดดมกลิ่นซากช้างแน่นหน้าอก เจออุปกรณ์บาดมือเป็นแผลลึก ท่ามกลางสภาพฝนตกหนัก น้ำตกไหลเชี่ยวให้สับเปลี่ยนกำลัง 3-4 วันต่อครั้ง ส่วนซากช้าง 3 ตัววันนี้ทำพิธีฝังกลบปากคลองต้นไทร แทนขนออกมาเผาป้องกันภาพสะเทือนใจ

วันนี้(14 ต.ค.2562) ไทยพีบีเอสออนไลน์ สัมภาษณ์ นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวถึงความคืบหน้าในการเก็บกู้ซากช้างป่าตาย 11 ตัวที่น้ำตกเหวนรก อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ว่า เมื่อวานนี้ (13 ต.ค.) เจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้ซากช้างได้แล้ว 3 ซากจากจำนวน 5 ซากที่ลอยมาท้ายน้ำตกเหวนรก ก่อนถึงปากคลองต้นไทร โดยมีลูกช้าง 1 ตัวลอยหลุดตาข่ายเข้าในพื้นที่อ่างเก็บน้ำขุนด่านปราการชล เจ้าหน้าที่ต้องผูกลากช้างกลับไปที่บริเวณคลองต้นไทร บริเวณตาข่ายชั้นนอก และวันนี้ จะมีการฝังกลบ 2 ซากที่ย่อยเป็นชิ้นแล้วที่บริเวณคลองต้นไทร 

นายจงคล้าย กล่าวว่า ส่วนตัวตัวที่ 4 และ 5 ค่อนข้างอันตราย โดยจะรอจนกว่าจะปลอดภัย เนื่องจากการปฏิบัติการกู้ซากช้างตายในพื้นที่ท้ายน้ำตกเหวนรกค่อนข้างลำบาก อุปสรรคฝนตกต่อเนื่องทำให้น้ำไหลเชี่ยว แต่ยืนยันประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ หากมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายก็จะสั่งให้หยุดปฏิบัติภารกิจ 

ส่วนช้างที่ตายในตำแหน่งของน้ำตกตัวอื่นๆ ได้มีการตรวจสอบที่ชั้นที่ 2 และชั้นที่ 3 หลุดออกมาชั้นละ 1 ตัว แต่ยังไม่ลอยมาถึงชั้นล่าง ซึ่งต้องมีการสำรวจเพิ่มเติมอีกครั้ง เพราะการเข้าพื้นที่ต้องเดินเท้าเข้าไปและน้ำก็ยังแรงอยู่ต้องจะประเมินสถานการณ์เรื่อยๆ

 

 

ทำบุญให้ช้างฝังกลบ 2 ตัวแรกวันนี้ 

ขณะที่ นายวิชัย พรลีแสงสุวรรณ์ ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช กล่าวว่า ได้มีการปรับแผนใหม่ด้วยการฝังซากช้างทั้งหมดไว้บริเวณพื้นที่ที่เหมาะสมแถวปากคลองต้นไทร เนื่องจากประเมินแล้วว่า การขนซากช้างที่ย่อยออกมาปริมาณมากอาจจะเป็นภาพที่สะเทือนใจ และมีเรืองการนำไปเผาด้วย จึงใช้การฝังกลบในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้แยกซากช้างได้แล้ว 2 ตัวและฝังกลบ และวันนี้ได้นิมนต์พระสงฆ์ 4 รูปเข้าไปทำพิธีในพื้นที่ก่อน

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช

  

นายวิชัย กล่าวอีกว่า ขณะที่การทำงานของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ และทีมกู้ภัยที่ต้องใช้กำลังคนมากกว่า 50 คนต่อวัน ทำงานในพื้นที่ลำบากจากสภาพพื้นที่ และความเสี่ยงของการเข้าถึง ทำให้ต้องประเมินความปลอดภัยเป็นหลัก หลังจากมีเจ้าหน้าที่เจ็บป่วย 5 คนที่ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลนครนายก จากอาการแน่นหน้าอก อาการแสบหายใจไม่สะดวก อ่อนแรง สาเหตุจากมาจากกลิ่นเหม็นของซากช้างที่ค่อนข้างรุนแรง ส่วนอีก 1 คนบาดเจ็บจากการถูกอุปกรณ์ทำงานบาดมือเป็นแผลลึก 

เบื้องต้นใช้การสับเปลี่ยนกำลังเจ้าหน้าที่ 3-4 วันในการเข้าปฏิบัติภารกิจกู้ซากช้าง ซึ่งมีของกรมอุทยาน 30 คนและกู้ภัย 20-30 คน โดยประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยและความเจ็บป่วยวันต่อวัน ทั้งนี้เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย มีฝนหนักและเส้นทางเข้าถึงยากลำบาก 
ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช

 

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ บริเวณน้ำตกเหวนรก เพื่อเก็บข้อมูลเส้นทางเดินของช้างป่าเพื่อวางแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุช้างป่าตกหน้าผาซ้ำอีก 

 

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช

 

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช

 

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เริ่มกู้ซากช้างตัวที่ 2 ขนย้ายออกจากเขื่อนขุนด่านฯ 15 ต.ค.นี้

ชำแหละซากช้าง 1 ตัว ลอยมาสมทบอีก 3

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง