วันนี้ (18 ต.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังสภาผู้แทนราษฎรมีมติเสียงข้างมาก 374 ต่อ 70 คะแนน อนุมัติพระราชกำหนดโอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ. 2562 เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยในการลงมติมีส.ส.ลงมติไม่อนุมัติพระราชกำหนดจำนวน 70 คน ซึ่งเป็น ส.ส. จากพรรคอนาคตใหม่เกือบทั้งหมด แต่มี ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เห็นด้วยกับการออกพระราชกำหนด 3 คน ได้แก่ น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี, นายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี และ พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี
นายจารึก ศรีอ่อน 1 ใน 3 ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ที่มติโหวตสวนทางมติพรรคในวาระดังกล่าว ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีข้อความระบุ ว่า “เมื่อวานปรับความเข้าใจกันครึ่งชั่วโมง ตกลงกันไม่ได้เรื่อง อบจ.จันทบุรี ผมต้องการความสามัคคีของพี่น้องอนาคตใหม่จันทบุรี คืออนาคตใหม่จันทบุรี ไม่ส่งสมัคร อบจ. หัวหน้าต้องการสร้างหลักการของการเมืองใหม่ ยืนยันต้องส่ง ก็ไม่ว่ากัน เพราะฉะนั้นวันนี้ในการยกมือ โหวต พ.ร.ก.ผมคิดอย่างไร
ผมขอทําตามความคิดของผมนะ หัวหน้ามาขอร้องให้ทําตามมติพรรค ซึ่งไม่ตรงกับความคิดผม ผมคงไม่ฟังหัวหน้า เพราะผมขอร้องหัวหน้าเรื่อง อบจ.จันทบุรี พูดให้เหตุผลจนปากเปียกปากแฉะ หัวหน้าก็ไม่ฟังผมอีก
เรื่องคือ กรรมาธิการ ผมขอไปอยู่คณะทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ผมจะไปทําเรื่องช้าง เรื่องที่ดิน ซึ่งเป็นปัญหาของพี่น้องประชาชนชาวจันทบุรีของผม คุยกับอาจารย์ปิยบุตรไม่รู้กี่ครั้ง ท่านก็ไม่ยอมผม หักผม ยอมรับว่าอึดอัดครับ เรียนความในใจให้พี่น้องประชาชนได้ทราบครับ”
ด้าน นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงการโหวต พ.ร.ก.โอนอัตรากำลังพลฯ ว่า เป็นเรื่องการบริหารภายในพรรค ซึ่งต้องมีการพูดคุยกันในพรรค แต่ยืนยันว่า 70 เสียงที่โหวตไม่เห็นด้วยนั้น มาจากการประชุมหารือกันภายในพรรคกว่า 3 วัน เพื่ออภิปรายแลกเปลี่ยนกันจนได้ข้อสรุปเป็นมติพรรค
ส่วนที่มีการโหวตสวนกันภายในพรรคเป็นเรื่องเกี่ยวกับการส่งผู้สมัครท้องถิ่นหรือไม่นั้น นายปิยบุตร กล่าวว่า ยังต้องหารือกันภายในพรรคเพราะเป็นส่วนของกระบวนการ ยืนยันออกแบบพรรคอนาคตใหม่โดยพยายามสร้างหลักอธิปไตยภายในพรรค พรรคเปิดโอกาสให้สมาชิก และ ส.ส. ได้ถกเถียงแลกเปลี่ยนกันในที่ประชุมอย่างเต็มที่