ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เม.ย.คนไทยจมน้ำตายเฉลี่ย 327 คน/ปี สงกรานต์เกิดเหตุเพิ่ม 1.5 เท่า

สังคม
11 เม.ย. 68
15:51
125
Logo Thai PBS
เม.ย.คนไทยจมน้ำตายเฉลี่ย 327 คน/ปี สงกรานต์เกิดเหตุเพิ่ม 1.5 เท่า
อ่านให้ฟัง
04:29อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
รมว.สาธารณสุข เผย เดือน เม.ย. คนไทยจมน้ำเสียชีวิตปีละกว่า 300 คน เป็นผู้ใหญ่ 45-59 ปี มากสุด ตามด้วยเด็กต่ำกว่า 15 ปี ขณะที่ช่วง "สงกรานต์" พบจมน้ำเสียชีวิตมากกว่าปกติ 1.5 เท่า เหตุขาดทักษะเอาตัวรอด ว่ายน้ำไม่เป็น ไม่สวมชูชีพ

วันนี้ (11 เม.ย.2568) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ช่วงเดือน เม.ย.เป็นช่วงที่ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัดและมีเทศกาลสงกรานต์ ประชาชนจึงมักพาครอบครัวหรือรวมกลุ่มเพื่อนเล่นน้ำคลายร้อนตามแหล่งน้ำที่จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสูงกว่าช่วงปกติ จากข้อมูลกองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปี 2558 - 2567 พบว่า เดือน เม.ย. มีคนจมน้ำเสียชีวิตเฉลี่ยปีละ 327 คน กลุ่มอายุ 45 - 59 ปี เสียชีวิตสูงที่สุด (84 คน) รองลงมาเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี (70 คน) โดยช่วงเทศกาลสงกรานต์ วันที่ 13 - 15 เม.ย. มีคนจมน้ำเสียชีวิตเฉลี่ยวันละเกือบ 15 คน มากกว่าวันปกติถึง 1.5 เท่า เฉพาะวันที่ 13 เม.ย. มีการจมน้ำเสียชีวิตสูงที่สุดเฉลี่ย 18 คน

ขณะที่ข้อมูลจากระบบรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการตกน้ำ จมน้ำ (Drowning Report) ของกองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค พบว่า การจมน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์มากกว่าครึ่งเกิดจากการเล่นน้ำ (ร้อยละ 58.6) และเกิดเหตุมากสุดในแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรและแหล่งน้ำตามธรรมชาติ ร้อยละ 79.3 ที่สำคัญคือ คนที่จมน้ำมีการดื่มแอลกอฮอล์ถึง ร้อยละ 12 และทั้งหมดไม่สวมเสื้อชูชีพ

นายสมศักดิ์กล่าวต่อว่า ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของการจมน้ำทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ คือ ขาดความรู้เรื่องความปลอดภัยทางน้ำ ขาดทักษะการเอาชีวิตรอดเมื่อตกน้ำ ว่ายน้ำไม่เป็น ไม่สวมเสื้อชูชีพและไม่ใช้อุปกรณ์ช่วยพยุงตัวขณะเล่นน้ำหรือทำกิจกรรมทางน้ำ รวมถึงไม่รู้วิธีช่วยเหลือและปฐมพยาบาลคนตกน้ำ จมน้ำที่ถูกต้อง จึงขอให้ประชาชนใช้หลัก "ชูชีพ กฎ งดดื่ม" ได้แก่

1.ใส่เสื้อชูชีพทุกครั้งที่เล่นน้ำหรือทำกิจกรรมทางน้ำ หรือใช้อุปกรณ์ช่วยลอยน้ำ เช่น แกลลอนพลาสติกเปล่า ขวดน้ำพลาสติกเปล่า เป็นต้น

2.ปฏิบัติตามกฎความปลอดภัยทางน้ำ เช่น ไม่เล่นน้ำบริเวณที่มีธงแดง คลื่นลมแรง คลื่นทะเลดูด ปฏิบัติตามป้ายเตือนและคำแนะนำ เป็นต้น

3.ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ก่อนหรือขณะทำกิจกรรมทางน้ำ หรือเมื่ออยู่ใกล้แหล่งน้ำ

ทั้งนี้ พ่อแม่ผู้ปกครองขอให้ดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้เด็กเล่นน้ำตามลำพัง สำหรับแหล่งน้ำที่จัดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำ เช่น อ่างเก็บน้ำ เขื่อน น้ำตก ทะเล ต้องจัดพื้นที่สำหรับเล่นน้ำแยกออกจากบริเวณสัญจรทางน้ำ จัดไลฟ์การ์ดดูแลตลอดเวลาเปิดบริการ ส่วนผู้ที่พบเห็นคนตกน้ำให้ใช้หลัก "ตะโกน โยน ยื่น" คือ ตะโกนเรียกให้คนมาช่วย โยนอุปกรณ์ใกล้ตัวเพื่อช่วยคนตกน้ำ เช่น เชือก วัสดุที่ลอยน้ำได้ และยื่นอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ตัว เช่น ไม้ เสื้อ ให้คนตกน้ำจับเพื่อดึงขึ้นจากน้ำ หากช่วยขึ้นมาแล้วห้ามจับอุ้มพาดบ่าหรือกระแทกท้องเพื่อเอาน้ำออก แต่ให้ช่วยด้วยการเป่าปากและนวดหัวใจ และโทร.แจ้ง 1669

อ่านข่าว :

สงกรานต์ 2568 ททท.คาดการณ์สร้างรายได้กว่า 2.6 หมื่นล้าน

ปชช.กลับสงกรานต์มิตรภาพรถเริ่มแน่น บขส.เผย 10 เม.ย. กว่า 1.2 แสนคน

เปิดเส้นทางเลี่ยงรถติดสงกรานต์ จากกรุงเทพฯ สู่ทุกภูมิภาค

ข่าวที่เกี่ยวข้อง