รณรงค์หยุดซิ่งวันเหยื่อโลก "อนุทิน" ย้ำต้องลดอุบัติเหตุถนนที่ต้นทาง

เมื่อวันที่ 17 พ.ย.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงาน กิจกรรมเดินวิ่ง หยุดซิ่ง…มาวิ่งกันเถอะ (Run for Road Traffic Victims) ณ สวนสาธารณะและสวนพฤกษชาติศรีนครเขื่อนขันธ์ (สวนบางกะเจ้า) อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ โดยมีนายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ นายจีระศักดิ์ ชูความดี รองอธิบดีกรมป่าไม้ Mr.Patrick Govaert กงสุลสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเบลเยี่ยมประจำประเทศไทย และประชาชนผู้สนใจ ร่วมพิธีเปิดและปล่อยตัวการแข่งขันเดินวิ่ง วันรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน 17 พ.ย.2562

 

น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ระบุ กิจกรรมเดินวิ่ง หยุดซิ่ง…มาวิ่งกันเถอะ ที่จัดขึ้นใน "วันโลกรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน" (World Day of Remembrance for Road Traffic Victims) โดยเป็นการแข่งขันเดินวิ่งและรณรงค์ลดอุบัติเหตุพร้อมกันในพื้นที่ 16 จังหวัด ประกอบด้วย สมุทรปราการ พะเยา เชียงใหม่ ลำปาง พิจิตร ขอนแก่น ภูเก็ต พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สุพรรณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ กาญจนบุรี เพชรบุรี นครปฐม และราชบุรี พร้อมร่วมประกาศเจตจำนงให้ปัญหาความไม่ปลอดภัยทางถนนที่ป้องกันได้ต้องถูกดำเนินการทันที เพื่อป้องกันปัญหาอุบัติเหตุและคุ้มครองสิทธิความปลอดภัยทางถนน

เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ยังระบุถึงรายงานอุบัติเหตุทางถนน ว่าเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนทั่วโลกเสียชีวิตจำนวนไม่น้อยกว่า 1.3 ล้านคน ขณะที่ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนมากถึง 62 คนต่อวัน เสียชีวิตมากกว่า 20,000 คนต่อปี มีผู้พิการรายใหม่อีกมากกว่า 40,000 คนต่อปี หากคิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจของประเทศ มีมากกว่า 2 แสนล้านบาทต่อปี จึงถือได้ว่าปัญหาอุบัติเหตุทางถนนของไทยนั้นเป็นภัยพิบัติระดับชาติอย่างหนึ่งที่ต้องมีมาตรการแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง 

ต้องหยุดเหยื่อรายใหม่ แก้ปัญหาที่ต้นทาง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปัญหาอุบัติเหตุทางถนนไม่ใช่เป็นปัญหาของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของทุกคนที่ต้องช่วยกันหยุดและลดอุบัติเหตุไม่ให้มีใครต้องตกเป็นเหยื่อรายใหม่เพิ่มขึ้น เพราะในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนจำนวน 20,169 คน หรือ 29.9 คนต่อแสนประชากร ยังไม่นับรวมผู้บาดเจ็บและพิการอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดกับเยาวชนและคนวัยทำงาน หรือ หนึ่งในสามของผู้เสียชีวิตหรือพิการ เป็นกำลังหลักในการดูแลครอบครัว ปัญหาอุบัติเหตุทางถนนจึงเป็นสถานการณ์สำคัญของประเทศที่ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมกันหาทางออกเพื่อป้องกันปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยให้มีในหัวใจทุกคน

นายอนุทิน ยังระบุอีกว่า การดำเนินการเพื่อตอบสนองภายหลังเกิดอุบัติเหตุ การส่งเสริมและพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉิน การรักษาและการฟื้นฟูผู้บาดเจ็บทั้งทางร่างกายและจิตใจ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่สามารถช่วยชีวิตและลดผลกระทบที่รุนแรงจากการเกิดอุบัติเหตุทางถนนให้กับผู้สูญเสียได้ รวมถึงการพัฒนาให้มีการสอบสวนสาเหตุของอุบัติเหตุและกระบวนการยุติธรรมสำหรับผู้สูญเสียและบาดเจ็บให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลและทุกภาคส่วนต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนให้เกิดความปลอดภัยอย่างยั่งยืน

เราเป็นแค่ปลายทาง ปลายเหตุ เราไม่ต้องการมานั่งคิด ว่าทำอย่างไรให้คนเกิดความปลอดภัย ไม่ต้องมานั่งคิด ว่าจะทำอย่างไรให้คนที่ประสบอุบัติเหตุ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เราต้องการให้ไม่มีอุบัติเหตุ ต้องการให้คนรักตัวเอง รู้ประสิทธิภาพของตนเอง สมรรถภาพของตัวเอง ว่าควรทำกิจกรรมต่าง ๆ ในระดับไหน เพื่อให้ตัวเองปลอดภัย

 

นายสักรินทร์ ขาวยั่งยืน ตัวแทนคนพิการทางการเคลื่อนไหว เดินทางมาจากจังหวัดฉะเชิงเทรา เล่าว่า เขาประสบอุบัติเหตุจากการที่มีคนเมาแล้วขับ ขับรถมาชนระหว่างซ่อมรถอยู่ไหล่ทาง ส่งผลให้ไม่สามารถเดินได้ตลอดชีวิต ซึ่งช่วงเวลาที่เกิดเหตุ ภรรยากำลังตั้งครรภ์ 3 เดือน เมื่อลูกเกิดมา จึงไม่มีโอกาสที่จะได้เห็นพ่อเดินได้หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ เหมือนคนทั่วไป เขาจึงอยากให้กิจกรรมครั้งนี้ เป็นการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการประมาทในการขับรถ

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เสนอทางออก ป้องกันอุบัติเหตุจากการตากข้าวบนถนน

"ประวิตร" เปิดงานความปลอดภัยทางถนน กำชับหน่วยงานหาทางลดอุบัติเหตุ