วันนี้ (4 ธ.ค.2562) สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า พายุไต้ฝุ่นคัมมูริความรุนแรงเทียบเท่ากับพายุเฮอริเคน ระดับ 4 ด้วยความเร็วลม 215 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (130 ไมล์ต่อชั่วโมง) แม้ผู้คนหลายพันคนจะอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะลูซอนตั้งแต่รัฐบาลมีการประกาศเตือน แต่ความรุนแรงของพายุไต้ฝุ่นคัมมูริส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4 คน เนื่องจากแรงลมที่พัดถล่มชายฝั่งส่งผลให้ต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่นและล้มทับหลังคาบ้านเรือนประชาชนพังเสียหาย
ท่าอากาศยานนานาชาตินินอย อากีโน หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติมะนิลา ยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 100 เที่ยว หลังจากเจ้าหน้าที่ในกรุงมะนิลาตัดสินใจปิดท่าอากาศยานเป็นเวลา 12 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 11.00 - 23.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นวานนี้ จากการคาดการณ์สภาพอากาศที่รุนแรง ขณะที่โรงเรียนในฟิลิปปินส์จะปิดการเรียนการสอนเป็นเวลา 2 วันติดต่อกัน
ขณะที่การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2019 มีการจัดกำหนดการแข่งขันใหม่บางรายการ เนื่องจากผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นคัมมูริ ทางการฟิลิปปินส์ ยังยืนยันว่า พวกเขามี "แผนสำรองฉุกเฉิน" สำหรับสภาพอากาศเลวร้ายและไม่จำเป็นต้องขยายการแข่งขันซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันที่ 11 ธ.ค.นี้
ทั้งนี้ สำนักอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์ คาดการณ์ว่า พายุไต้ฝุ่นคัมมูริจะเคลื่อนตัวผ่านใจกลางฟิลิปปินส์ ก่อนจะเคลื่อนไปทางตอนทิศใต้ของเมืองหลวงกรุงมะนิลาในช่วงบ่าย ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรง จากนั้นพายุไต้ฝุ่นคัมมูริจะเคลื่อนตัวผ่านเกาะลูซอนและคาดว่าจะเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ต่อไปในช่วงบ่ายวันพุธ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
พายุไต้ฝุ่น "คัมมูริ" จ่อถล่มฟิลิปปินส์ 3 ธ.ค.นี้
สนามบินนานาชาติมะนิลาปิดชั่วคราว รับมือไต้ฝุ่นคัมมูริ
"ทีมลมกรดไทย" เลื่อนเที่ยวบิน หลังพายุพัดถล่มฟิลิปปินส์
"ฟิลิปปินส์" เร่งรับมือพายุช่วงซีเกมส์