ผู้อำนวยการกรมการสร้างภูมิคุ้มกัน วัคซีนและผลิตภัณฑ์ชีวภาพขององค์การอนามัยโลก เปิดเผยว่า เมื่อปี 2561 มีผู้เสียชีวิตจากโรคหัดประมาณ 142,300 คน จากจำนวนผู้ติดเชื้อ 9.7 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่อยู่ที่ 7.5 ล้านคน
องค์การอนามัยโลก ชี้ว่าความล้มเหลวในการป้องกันโรคหัด มีสาเหตุสำคัญจากการไม่รับวัคซีนป้องกันโรคหัด และการเผยแพร่ข้อมูลแบบผิดๆ เกี่ยวกับวัคซีนของขบวนการต่อต้านการรับวัคซีน ทำให้หลายประเทศเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคหัด ทั้งที่เป็นโรคที่ป้องกันได้
ด้านผู้แทนขององค์การยูนิเซฟ ระบุว่า มีการให้ข้อมูลผิดๆ เกี่ยวกับวัคซีนที่กลุ่มเคลื่อนไหวโดยเฉพาะในประเทศพัฒนา เช่น สหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ มีส่วนทำให้การแพร่ระบาดของโรคหัดในซามัวรุนแรง เนื่องจากประชาชนไม่เชื่อใจคุณภาพของระบบสาธารณสุขและปฏิเสธการรับวัคซีน ทำให้อัตราการรับวัคซีนในประเทศลดลงเหลือเพียงประมาณร้อยละ 30 เท่านั้น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารซามัว เปิดเผยว่า แนวคิดต่อต้านการฉีดวัคซีนขัดขวางความพยายามของรัฐบาลในการต่อสู้กับโรคหัด ซึ่งกำลังแพร่ระบาดอย่างรุนแรง และทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 63 คน ในจำนวนนี้ 55 คนเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี
ส่วนอัยการสูงสุดซามัว ระบุว่า ได้สั่งการให้ตำรวจจัดการกับผู้ที่เผยแพร่แนวคิดต่อต้านวัคซีน โดยมีผู้รณรงค์ต่อต้านวัคซีนถูกจับกุมตัวไปแล้วอย่างน้อย 1 คน ด้วยข้อหายุยงปลุกปั่น ซึ่งอาจต้องโทษจำคุก 2 ปี
ขณะที่วันนี้ถือเป็นวันที่ 2 ที่รัฐบาลซามัวสั่งปิดบริษัท ห้างร้านทุกแห่ง และหน่วยงานของรัฐจำนวนหนึ่ง รวมทั้งห้ามไม่ให้ประชาชนออกจากบ้าน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในมาตรการรับมือโรคหัด หลังจากมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและสั่งให้ประชาชนทุกคนเข้ารับวัคซีนป้องกันโรคหัด