ปีหมูสยอง "วิกฤตเลิกจ้าง" จากเศรษฐกิจชะลอตัว

วันนี้ (3 ม.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นปีกุนตามหลักโหราศาสตร์ หลายคนตั้งความหวังอยากให้เป็นปีหมูทอง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าปีที่แล้วเป็นปีที่ประเทศไทยเผชิญความเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอนหลากหลายด้าน

ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งแรกในรอบกว่า 7 ปี หลังจากมีการทำรัฐประหารในปี 2557 กว่าจะได้รัฐบาลใหม่แบบที่มีเสียงปริ่มน้ำ ก็ล่วงเลยมาจนถึงกลางปีแล้ว ทำให้การลงทุนและการใช้จ่ายจากภาครัฐชะงักตัวไปชั่วคราว ขณะที่ภาคเอกชนก็ชะลอลงทุน เนื่องจากรอความชัดเจนในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่รัฐบาลชุดใหม่

สงครามการค้า-ค่าเงินบาท กระทบเศรษฐกิจ

ขณะที่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่ลากยาวมาตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2561 เริ่มส่งผลกระทบอย่างชัดเจนมากขึ้นในปีนี้ แต่สุดท้ายแล้ว เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศ เตรียมลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกร่วมกันในวันที่ 15 ม.ค.นี้

ส่วนค่าเงินบาทที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ได้ส่งผลกระทบภาคการส่งออกและท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมหลักที่สร้างรายได้เข้าประเทศเป็นอันดับต้นๆ เช่นกัน

ประกอบกับกระแสเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ทำให้หลายธุรกิจหลายอุตสาหกรรมมีการปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ไม่ว่าจะเป็นการเลิกจ้าง ลดชั่วโมงการทำงาน หยุดทำงานชั่วคราว หรือแม้กระทั่งการปิดตัวไป

คนไทยว่างงาน พ.ย.กว่า 429,000 คน

จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติล่าสุด ระบุการทำงานของประชากรในเดือน พ.ย.2562 พบว่าผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงาน 38.22 ล้านคน ซึ่งประกอบด้วยผู้มีงานทำ 37.71 ล้านคน ผู้ว่างงาน 429,000 คน และผู้รอฤดูกาล 80,300 คน

เมื่อเปรียบเทียบสถานการณ์แรงงานกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 พบว่าจำนวนผู้มีงานทำลดลง 550,000 คน (จาก 38.26 ล้านคน เป็น 37.71 ล้านคน) ผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 60,000 คน (จาก 369,000 คน เป็น 429,000 คน) ​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​

ไทม์ไลน์วิกฤตเลิกจ้างจากพิษเศรษฐกิจ

20 ก.พ.2562
เครือบางกอกโพสต์ประกาศปิดตัวสื่อสิ่งพิมพ์ 2 ฉบับ "โพสต์ทูเดย์-เอ็มทูเอฟ ฟรีเปเปอร์" ในเดือน มี.ค.2562 และผันตัวไปเป็นสื่อดิจิทัล หลังขาดทุนต่อเนื่อง เลิกจ้างพนักงานกว่า 200 คน

21 มิ.ย.2562
โรงแรมด่านนอก อ.สะเดา จ.สงขลา ประกาศเลิกจ้างพนักงานกว่า 100 คน หลังขาดทุนต่อเนื่อง จากผลกระทบค่าเงินริงกิตตกต่ำและปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพักน้อยลง

12 ก.ค.2562
สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 ขอคืนใบอนุญาตทีวีดิจิทัลกับ กสทช.จำนวน 2 ช่อง คือช่อง 13 แฟมิลี่ และช่อง 28 SD ทำให้มีการเลิกจ้างพนักงานมากถึง 154 คน

19 ก.ค.2562
บริซัท ซันโย เอ็นจิเนียริ่ง (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งประกอบกิจการผลิตชิ้นส่วนแม่พิมพ์ ประกาศปิดกิจการและเลิกจ้างพนักงาน จากปัญหาเศรษฐกิจและขาดทุนสะสมมานาน และมีผลตั้งแต่ 31 ส.ค.2562

29 ส.ค.2562
บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตรถยนต์กระบะเชฟโรเลตในนิคมฯ อีสเทิร์นซีบอร์ด จ.ระยอง ประกาศเลิกจ้างพนักงานประจำและชั่วคราวกว่า 300 คน เพื่อปรับองค์กรรองรับการรุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

22 ก.ย.2562
บริษัท เอเพ็กซ์ เซอร์คิต (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในนิคมฯ สินสาคร อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ประกาศเลิกจ้างพนักงานไม่ผ่านทดลองงาน 140 คน จากสภาวะเศรษฐกิจโลก และสงครามการค้า

21 ต.ค.2562
บริษัท ไทยซัมมิท แหลมฉบัง ออโตพาร์ท จำกัด ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ประกาศให้มีการหยุดงานชั่วคราวบางส่วน ตั้งแต่ 26 ต.ค. - 25 ธ.ค.62 แต่ยังจ่ายเงินค่าตอบแทนให้กับพนักงาน 75% ของค่าจ้างปกติ

25 ต.ค.2562
บริษัท เอสอาร์เอฟ อินดัสทรี้ส์ (ไทยแลนด์) จำกัด โรงงานผลิตผ้าใบยางรถยนต์ในนิคมฯ มาบตาพุด จ.ระยอง ประกาศเลิกจ้างพนักงาน 400 คน จากความต้องการตลาดลดลงและได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งค่า

31 ต.ค.2562
บริษัท นิปปอนสตีล สตีล โพรเซสซิ่ง (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม NIPPON STEEL จากญี่ปุ่น ประกาศแจ้งพนักงานหยุดงานชั่วคราว 9 พ.ย.2562 โดยจะจ่ายเงินให้ 75% เนื่องจากกำลังสั่งซื้อสินค้ามีน้อย

8 พ.ย.2562
สายการบิน "ไทยแอร์เอเชีย" มีนโยบายให้ลูกเรือหยุดทำงาน 3 เดือน โดยไม่รับเงินเดือนในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว หรือไฮซีซัน และอาจจะต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีหน้า เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวและอุตสาหกรรมการบินแข่งขันสูง

ในวันเดียวกัน บริษัท นิตพอยน์ จำกัด โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูป ประกาศปิดกิจการและเลิกจ้างลูกจ้างกว่า 200 คน ซึ่งให้มีผลตั้งแต่ 9 พ.ย.2562 เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจและขาดทุนสะสมมานาน โดยค้างค่าแรงลูกจ้างกว่า 2 เดือน

23 ธ.ค.2562
บริษัท พงศ์พาราโคดันรับเบอร์ จำกัด จ.สมุทรสาคร ประกาศเลิกจ้างพนักงาน 997 คน โดยไม่บอกล่วงหน้า ยินยอมจ่ายค่าชดเชยเงินกว่า 114 ล้านบาท อ้างขาดสภาพคล่อง

ไตรมาสแรกปี 63 จ่อตกงาน 50,000 คน

อย่างไรก็ดี ในช่วงปลายปี 2562 พนักงานและลูกจ้างได้รับข่าวดีจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำรับเทศกาลปีใหม่ 5-6 บาท ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.2563 แต่ข่าวดีดังกล่าวอาจจะมาพร้อมความหวั่นใจในอนาคตของใครหลายคน หลังจากกระทรวงแรงงานคาดการณ์ว่าในช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 จะมีคนตกงานประมาณ 50,000 คน

ข้อมูลจากกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ระบุว่าในปัจจุบันมีบัณฑิตตกงานมากถึง 370,000 คน และในเดือน มี.ค.2563 จะมีบัณฑิตจบใหม่อีก 300,000 คน ซึ่งคาดว่าจะตกงานประมาณ 50% ทำให้มีบัณฑิตกำลังจะตกงานรวมกว่า 500,000 คน

ก.แรงงาน เตรียมตำแหน่งงานรองรับตกงาน

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานได้ระบุว่ามีการเตรียมพร้อมมาตรการต่างๆ ในการรองรับคนตกงาน นอกเหนือจากการจ่ายเงินกองทุนสงเคราะห์ และยังได้เตรียมตำแหน่งงานกว่า 87,000 คน ทั้งนี้ จากตัวเลขการเลิกจ้างปี 2562 ล่าสุดอยู่ที่ 350,000-400,000 คน หรือคิดเป็น 1% เท่ากับสถานการณ์เมื่อปี 2561

ส่วนในปี 2563 หรือปีชวด (หนู) ประเทศไทยยังต้องเผชิญปัจจัยเสี่ยงทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้า เฟส 2 ค่าเงินบาทแข็งค่า และการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ไม่ว่าจะเป็นปีนี้เผาหลอก หรือปีหน้าเผาจริงหรือไม่ คงต้องติดตามสถานการณ์กันต่อไป