วันนี้ (3 ม.ค.2563) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่สถานีโทรทัศน์เบลอถุงพลาสติก เพื่อรณรงค์ลดใช้ถุงพลาสติกว่า การที่แต่ละสถานีโทรทัศน์จะมีแนวทางการดำเนินการอย่างไรก็แล้วแต่นโยบายการทำงานของแต่ละสถานี ซึ่งเมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา มี 8 ช่องสถานี แสดงความจำนงที่จะให้ความร่วมมือรณรงค์ลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติก และการเบลอถุงพลาสติก ก็เหมือนกับการเบลอภาพบุหรี่ หรือสุรา
โดยส่วนตัวคาดการณ์ไว้แล้วว่าจะต้องมีการวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้น และมองเป็นเรื่องตลกขบขันว่าการเบลอถุงพลาสติกคงไม่สามารถช่วยลดปริมาณการใช้ลงได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ากระแสวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าว ทำให้คนไทยรับรู้ว่าวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา ประเทศไทย เริ่มลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติกแล้ว
ขอบคุณประชาชนร่วมมือลดใช้ถุงพลาสติก
ทั้งนี้ อยากฝากถึงประชาชนให้ดูที่เจตนารมณ์ของสถานีโทรทัศน์ว่าต้องการจะสื่ออะไร อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือแม้จะไม่มีถุงผ้าก็ยังนำอยากอุปกรณ์อื่นๆ มาใช้แทนถุงพลาสติก จึงเชื่อว่าคนไทยจะค่อยๆ ปรับตัว และลดการใช้ถุงพลาสติกได้
นายวราวุธ กล่าวอีกว่า การนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์หรือขยะพลาสติกถือเป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทย เพราะในขณะที่เรากำลังลดใช้ถุงพลาสติก แต่กลับมีการนำเข้าขยะพลาสติกในฐานะที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผลักดันเรื่องปัญหาขยะพลาสติก ก็ขอน้อมรับไว้
เร่งแก้ปัญหาขยะรีไซเคิล-ชี้ไทยไม่ใช่ถังขยะ
ขณะที่จากการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมครั้งล่าสุด ที่ประชุมได้มีมติตั้งอนุกรรมการบริหารจัดการขยะพลาสติกและขยะอิเล็กทรอนิกส์ขึ้น หากมีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการแล้วจะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางหยุดการนำเข้าขยะพลาสติก หรือขยะอิเล็กทรอนิกส์ ที่อ้างว่านำเข้ามาเพื่อรีไซเคิล เพราะแท้จริงแล้วคือการนำขยะมาทิ้งในบ้านเรา ประเทศไทยไม่ใช่ถังขยะของบ้านอื่น
ส่วนในอนาคต โรงงานที่จะก่อตั้งขึ้น หากเข้ามาเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศก้าวไปข้างหน้า รัฐบาลก็ยินดีสนับสนุน แต่ทุกโรงงานจะต้องมีมาตรการดูแลสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม