วันนี้ (4 ม.ค.2563) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์นำเสนอข่าว "ปาระเบิด หน้าโรงแรมดังแม่สอด ปมเบี้ยวค่าแรงสร้างด่านศุลกากรแห่งใหม่" ในพื้นที่ สภ.แม่สอด จ.ตาก ว่า ได้รับรายงานจาก สภ.แม่สอด จว.ตาก ว่า วันนี้ เมื่อเวลาประมาณ 04.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.แม่สอด ว่ามีรถยนต์กระบะจอดอยู่บริเวณลานจอดรถทางออกของโรงแรมชื่อดัง ต.แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก ได้รับความเสียหาย จากแรงระเบิด จึงเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจและเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.แม่สอด เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ทะเบียน 1 ฒบ 5361 กทม. จอดอยู่ลานจอดรถทางออกของโรงแรม ได้รับความเสียหายบริเวณในกระบะรถ และกระจกด้านหลังได้รับความเสียหาย
จากการตรวจสอบได้ทราบถึงตัวผู้ขับขี่ ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์คันดังกล่าวแล้ว พนักงานสอบสวนได้ทำการถ่ายภาพที่เกิดเหตุ ทำแผนที่เกิดเหตุไว้พอสังเขป และได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เพื่อตรวจสอบว่าผู้ต้องหาใช้เป็นวัตถุประเภทใด ชนิดใด หรือเป็นระเบิดหรือไม่ อีกทั้งได้ประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ และไล่กล้องวงจรปิดทั้งบริเวณที่เกิดเหตุ และเส้นทางที่ผู้ก่อเหตุใช้หลบหนี เพื่อติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมารับโทษโดยเร็ว
คาดว่าอาจเกิดจากปมขัดแย้งรับเหมาก่อสร้าง
รองโฆษก ตร.กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้สอบปากคำผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าวแล้ว เบื้องต้น คาดว่าอาจเกิดจากปมขัดแย้งในงานรับเหมาก่อสร้าง และได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบ เบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุมี 1คน ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบมาก่อเหตุดังกล่าว โดยภาพจากกล้องวงจรปิดที่ปรากฏมีลักษณะคล้ายระเบิดขวด แต่คงต้องรอผลการยืนยันจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนติดตามผู้ก่อเหตุมารับโทษตามกฎหมายโดยเร็ว
พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้เน้นย้ำและกำชับเรื่องการป้องกันอาชญากรรมของทุกกองบัญชาการในทุกพื้นที่ ไม่ให้มีเหตุลักษณะนี้เกิดขึ้น โดยให้มีมาตรการเพิ่มความเข้มในการออกตรวจพื้นที่สุ่มเสี่ยง จุดล่อแหลม ธนาคาร ร้านทอง ร้านสะดวกซื้อต่างๆ อีกทั้งการทำประวัติบุคคลเฝ้าระวัง การประชาสัมพันธ์ถึงภัยของมิจฉาชีพให้กับประชาชน รวมถึงการป้องกันเหตุดังกล่าว
ขอความร่วมมือประชาชนแจ้งเบาะแสผู้ก่อเหตุ
อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุขึ้นแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุมาได้โดยเร็ว และดำเนินการสืบสวนสอบสวนในทุกคดี ด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรม ตามหลักกฎหมาย อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์หรือพยานหลักฐานที่ชี้ถึงตัวผู้กระทำความผิดเป็นสำคัญ เพื่อเยียวยาความเสียหาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน นักท่องเที่ยว นักลงทุน
ทั้งนี้ หากผู้ใดมีข้อมูลเบาะแสในเรื่องดังกล่าว สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) โทร.1599 หรือ สภ.แม่สอด โทร. 055-531-130 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง