วันนี้ (5 ม.ค.2563) นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ทวีตข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ ระบุว่า สหรัฐฯ วางเป้าหมายโจมตีสถานที่สำคัญของอิหร่าน 52 แห่ง และพร้อมที่จะโจมตีอย่างรวดเร็วและรุนแรง หากอิหร่านเปิดฉากโจมตีชาวอเมริกัน หรือเป้าหมายที่เป็นสินทรัพย์และผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ก่อน
ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นหลังจากอิหร่านประกาศว่า สหรัฐฯ ต้องชดใช้อย่างสาสม และขู่ที่จะตอบโต้การใช้โดรนสังหาร พล.ต.คาเซม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ หน่วยปฏิบัติการพิเศษของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิสลามอิหร่าน ใจกลางกรุงแบกแดด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ทยอยส่งกำลังทหารเข้าเสริมทัพในตะวันออกกลางอย่างต่อเนื่อง โดยทหารประมาณ 3,000 นาย เดินทางจากฐานทัพในรัฐนอร์ท แคโรไลนา เพื่อมุ่งหน้าไปยังคูเวต
เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ภารกิจของกองกำลังดังกล่าว มีทั้งการเตรียมการคุ้มครองสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในเลบานอน และปฏิบัติการอื่นๆ
ขณะที่ชาวอเมริกันทั้งในกรุงวอชิงตัน ดีซี และ นครลอส แอนเจลิส ต่างออกมารวมตัวถือป้ายข้อความต่อต้านความรุนแรงและการทำสงคราม พร้อมคัดค้านการกระทำของผู้นำสหรัฐฯ ที่สั่งโจมตีเพื่อสังหาร พลตรี โซเลมานี ของอิหร่าน ซึ่งหลายฝ่ายเกรงว่า จะนำมาซึ่งสงครามหรือการเผชิญหน้ากันระลอกใหม่ระหว่างอิหร่านและสหรัฐฯ ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียด ที่ไม่มีฝ่ายใดยอมผ่อนปรน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทรัมป์” สั่งสังหารนายพลระดับสูงของอิหร่าน
ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ขู่แก้แค้นสหรัฐฯ สังหารนายพล
สหรัฐฯ ยกเลิกเก็บตัวที่กาต้าร์ หลังตะวันออกกลางตึงเครียด
สหรัฐฯ ยกระดับรักษาความปลอดภัยสถานทูตในอิรัก
"ทูตอิหร่าน" ชี้สหรัฐฯ สังหารนายพลอิหร่านเป็นการก่อสงคราม