วันนี้ (10 ม.ค.2563) เวลา 10.00 น. ศาลปกครองสูงสุด อ่านคำพิพากษา มีมติให้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) รับซองที่ 2 กล่องที่ 6 ซึ่งเป็นข้อเสนอทางเทคนิคและแผนธุรกิจ และซองที่ 3 กล่องที่ 9 ซึ่งเป็นข้อเสนอด้านราคา ในการร่วมประมูลพัฒนาโครงการ
เนื่องจากเห็นว่า ข้อกำหนดการเปิดรับซองหลัง 15.00 น. ไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะผู้ฟ้องหรือกลุ่มธนโฮลดิ้ง ได้มาลงทะเบียนแสดงเจตจำนงค์ว่าต้องการเข้าร่วมในการยื่นประมูล โดยได้มายื่นซองเอกสารเข้าร่วมประมูลในวันที่ 21 มี.ค.2562 ตั้งแต่ช่วงเวลา 12.20 น.
นอกจากนี้ ได้มีการลำเลียงเอกสารจำนวน 10 กล่อง และไม่ได้ปิดผนึก 2 กล่อง ซึ่งศาลพิจารณาว่าไม่ใช่สาระสำคัญ และการที่กล่องเอกสาร 6 กับ 9 ไม่ได้ปิดผนึก ก็ไม่ใช่สาระสำคัญที่ผู้ฟ้องจะได้รับการคัดเลือก เนื่องจากจะต้องผ่านเกณฑ์การประเมินข้อเสนอด้านเทคนิค ก่อนจะต้องพิจารณาข้อเสนอที่ดีที่สุด
นอกจากนี้ ยังไม่สอดคล้องกับข้อกำหนดหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ในการเปิดซอง เพราะคณะกรรมการพิจารณาได้มีการเลื่อนเวลาการเปิดซองที่ 1 ซองคุณสมบัติทั่วไป ซึ่งกำหนดให้ต้องเปิดในเดียวกันเวลา 16.00 น. เพราะเห็นว่าเอกสารมีจำนวนมากและต้องได้รับการตรวจสอบ ดังนั้น แสดงให้เห็นว่า ข้อกำหนดด้านเวลากับความเป็นจริงในการปฏิบัติไม่สอดคล้องกัน
อีกทั้งได้ขอความเห็น สกพอ.ได้กรณีการยื่นเอกสารล่าช้าไปแล้ว และคณะกรรมการ สกพอ. ได้มีมติเห็นในกรณีดังกล่าวเห็นว่าผู้ที่เสนอทุกรายมาก่อนเวลา 15.00 น. และกล่องทุกกล่องได้มาถึงจุดลงทะเบียนก่อนเวลา 15.00 น. รวมถึงถูกจัดเก็บในห้องเอกสารครบหมดแล้ว
ศาลจึงวิเคราะห์ จากหลักฐานและข้อกฎหมายพิจารณาว่าการยื่นซองเทคนิกและซองราคาช้ากว่าระยะเวลาที่กำหนดไว้ คือ 15.00 น.ไม่เป็นสาระสำคัญที่เกิดข้อได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างผู้ประมูลรายอื่น และถือว่าไม่สามารถบอกได้ว่าผู้ประมูลกระทำไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โดยวันนี้ กองทัพเรือในฐานะเจ้าของโครงการมอบหมายให้ พล.ร.อ.โสภณ วัฒนมงคล รองผู้บัญชาการทหารเรือ และประธานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกของกองทัพเรือ (กพอ.ทร.) และ พล.ร.ต.เกริกไชย วจนาภรณ์ ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนฯ มารับฟังคำพิพากษา
ส่วนกลุ่มซีพีผู้ฟ้องคดีมอบหมายให้น.ส.ปะราลี เตชะจงจินตนา เป็นผู้แทนมารับฟังคำพิพากษา