วันนี้ (28 ม.ค.63) กองทัพอากาศแถลงความพร้อมการจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ 100 ปี การทิวงคตจอมพลสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กรมหลวงพิศณุโลกประชานารถ พระบิดาแห่งกองทัพอากาศ 13 มิถุนายน 2563 โดยกองทัพอากาศได้กำหนดจัดกิจกรรมที่มุ่งเผยแพร่พระประวัติ พระกรณียกิจ และพระกรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อประเทศชาติและกองทัพอากาศ รวมทั้งสานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและสหพันธรัฐรัสเซีย
พลอากาศเอกเสนาะ พรรณพิกุล ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพอากาศ กล่าวว่า หากย้อนกลับไปในห้วงต้นรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงมีพระบรมราชานุญาตให้นายชาร์ล แวน เด็น บอร์น ชาวเบลเลี่ยม นำเครื่องบินเข้ามาทำการบินแสดงเหนือฟ้าประเทศสยามเป็นครั้งแรก และโอกาสนั้นเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2453 เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ ได้ประทับบนเครื่องบินทำการบินขึ้นไปในอากาศด้วย ในฐานะที่ทรงเป็นพระบรมวงศ์ชั้นสูง และทรงเป็นเสนาธิการทหารบกในขณะนั้นจึงมีพระดำริให้จัดตั้งแผนกการบินขึ้นในกองทัพบก และทรงให้คัดเลือกนายทหาร 3 นาย เดินทางไปฝึกศึกษาวิชาการบิน ณ ประเทศฝรั่งเศส และเป็นจุดกำเนิดของกำลังทางอากาศในประเทศสยาม
กองทัพอากาศ จึงได้เทิดพระเกียรติพระองค์ทรงเป็น “พระบิดาแห่งกองทัพอากาศ” และในโอกาสที่ปี 2563 นับเป็นปีครบรอบ 100 ปี การทิวงคต พระบิดาแห่งกองทัพอากาศ กองทัพอากาศ จึงได้กำหนดจัดกิจกรรมต่าง ๆ หลายกิจกรรมอย่างสมพระเกียรติ
พลอากาศเอก สิทธิชัย แก้วบัวดี ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติพระบิดาแห่งกองทัพอากาศ กล่าวว่า ตลอดปี 2563 จะมีกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งการจัดทำสารคดีเทิดพระเกียรติ 100 ปี การจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติ ณ ห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ระหว่าง 9 – 14 มิถุนายน 2563 กิจกรรม RTAF SPACE CAMP ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้เยาวชนได้เข้าถึงองค์ความรู้ด้านอวกาศ โดยคัดเลือกเยาวชนที่มีทักษะเฉพาะมารับการอบรมความรู้ด้านการบินและเข้าร่วมกิจกรรมด้าน อวกาศ ณ ประเทศรัสเซีย การจัดทำหนังสือที่ระลึกโอกาสครบ 100 ปี การทิวงคต และพิธีน้อมรำลึกในพระกรุณาธิคุณโอกาสครบ 100 ปีแห่งการทิวงคต เพื่อเป็นกุศลอุทิศถวายแด่พระบิดาแห่งกองทัพอากาศในวันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน 2563
นอกจากนี้กองทัพอากาศยังได้กำหนดให้มีกิจกรรมเทิดพระเกียรติ โอกาสครบ 100 ปี การทิวงคต ที่สำคัญ 3 กิจกรรม คือการจัดสร้างพระพุทธรูปกองทัพอากาศ การจัดประชุมสัมมนาทางวิชาการกองทัพอากาศ และคอนเสิร์ตทัพฟ้าคู่ไทยเพื่อชัยพัฒนา ครั้งที่ 13
พลอากาศเอก นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการกรมควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ ในฐานะประธานกรรมการจัดสร้างพระพุทธรูปกองทัพอากาศ กล่าวว่า พระพุทธรูปที่กองทัพอากาศจัดสร้างในโอกาสสำคัญครั้งนี้ได้รับประทานชื่อจากสมเด็จพระสังฆราชว่า "พระพุทธศาสดา ประชานาถ" มีความหมายว่า พระพุทธเจ้าทรงเป็นพระศาสดาผู้เป็นที่พึ่งของประชาชน" มีพุทธลักษณะและ พุทธศิลป์ของ 4 ยุคสมัยประกอบกัน คือ ล้านนา สุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์ สร้างจากเนื้อทศโลหะ ที่มีคุณค่าและเป็นมงคล 10 ชนิด รวมทั้งไทเทเนียมซึ่งเป็นโลหะที่ใช้สำหรับเครื่องบินและทองเหลืองที่มาจากปลอกกระสุนปืนกลอากาศของเครื่องบินขับไล่ ซึ่งบินผ่านความเร็วเสียงมาแล้ว
โดยในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2563 ตามหลักปฏิทินสากล ที่เขียนเป็น "02022020" ถือเป็นตัวเลขมงคล เป็นวันอันดีที่จะอัญเชิญพระพุทธศาสดาประชานาถขึ้นไปทำพิธีมหาพุทธาภิเษก และบรรจุพระบรมสารีริกธาตุซึ่งสมเด็จพระสังฆราชได้ประทานมาไว้ในพระเกศขององค์พระประธาน ณ ยอดดอย สูงสุดแดนสยาม สถานีรายงานดอยอินทนนท์ อุทยานแห่งชาติอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ และจัดสร้างแท่นประดิษฐานองค์พระประธานบนยอดดอยอินทนนท์ต่อไป
หม่อมราชวงศ์หญิง นริศรา จักรพงษ์ พระนัดดาในจอมพลสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กรมหลวงพิศณุโลกประชานารถ กล่าวว่า การที่กองทัพอากาศได้น้อมรำลึกในพระกรุณาธิคุณของ “ทูลกระหม่อมปู่” และเทิดพระเกียรติพระองค์เป็น “พระบิดาแห่งกองทัพอากาศ” นั้น ทำให้พวกเราในฐานะที่เป็นราชสกุลรู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจอย่างยิ่ง และเชื่อได้ว่า ทูลกระหม่อมปู่ต้องมีพระทัยภาคภูมิใจอย่างที่สุดเช่นกัน ที่ทรงได้รับรู้ว่าแผนกการบินเล็ก ๆ ที่พระองค์ทรงก่อตั้งขึ้นในอดีตนั้น ได้พัฒนาก้าวหน้ามาเป็นกองทัพอากาศที่มีความเข้มแข็ง ทันสมัย ทัดเทียมนานาอารยประเทศ ดังเช่นปัจจุบัน
ทูลกระหม่อมปู่ ท่านทิวงคต เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2363 มีพระชนมายุเพียง 37 พรรษา เท่านั้น และในปีนี้ที่จะเป็นโอกาสครบรอบ 100 ปี การทิวงคต ของพระองค์ท่าน ดิฉัน รวมถึงราชสกุลจักรพงษ์ทุก ๆ คน ขอขอบคุณกองทัพอากาศ ที่จะจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ จึงมีความยินดีและพร้อมประสานความร่วมมืออย่างเต็มความสามารถ