วันนี้ (17 เม.ย.2563) พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงถึงกรณีการออกประกาศ ข้อบังคับหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจรทั่วราชอาณาจักร ว่าด้วยการห้ามรถบรรทุก 4 ล้อ, 6 ล้อ และ 10 ล้อขึ้นไป เดินในเขตกรุงเทพมหานครในช่วงเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากมีการระบาดของโรค COVID-19 โดยระบุว่า เป็นการอนุโลมให้รถทุกประเภทสามารถวิ่งได้ตั้งแต่เวลา 04.00 - 22.00 น.
ส่วนรถบรรทุกสินค้าอุปโภคบริโภค สามารถวิ่งได้ 24 ชั่วโมง ตามที่ได้รับอนุญาตไปก่อนหน้านี้ โดยประกาศดังกล่าว มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 30 เม.ย.2563 จึงจะมีการพิจารณาใหม่อีกครั้ง แต่ยังคงข้อห้ามรถบรรทุกจอด 2 ฝั่งถนนตามข้อบังคับเดิม
ขณะที่การบริหารการจราจรในแต่ละจังหวัด ยังให้แต่ละพื้นที่พิจารณา โดยการเดินรถขอให้หลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางที่มีการก่อสร้างถนน, เส้นทางรถไฟฟ้า ส่วนรถที่ได้รับการยกเว้นให้วิ่งในช่วงเวลาเคอร์ฟิว ก็ต้องมีเอกสารรับรองจากเจ้าของกิจการ เอกสารประจำตัวคนขับ เมื่อต้องขับผ่านด่านตรวจด้วย
2 สัปดาห์ จับกุมฝ่าฝืน พ.ร.ก.กว่า 7,000 ราย
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากการตั้งด่านเคอร์ฟิว 998 จุดทั่วประเทศ ตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีการจับกุมผู้ฝ่าฝืนกว่า 7,000 ราย โดยมีแนวโน้มลดลงทุกวัน ส่วนการดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เมื่อคืนนี้ มีการดำเนินคดี 929 คน แบ่งเป็นผู้ออกนอกเคหสถาน 820 คน มีการตักเตือนไป 172 คน ส่วนที่เหลือ 642 คน ถูกดำเนินคดี
ขณะเดียวกัน พบว่ายังคงมีผู้ชุมนุมมั่วสุมในเคหสถาน ซึ่งมีการดำเนินคดีไปแล้ว 109 คน สะท้อนให้เห็นว่าบางส่วนยังไม่เข้าใจเจตนารมณ์ในการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาดของโรค
นอกจากนี้ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน ยังพบมีสถานประกอบการฝ่าฝืนคำสั่งห้ามเปิดดำเนินการถูกดำเนินคดี รวม 62 ราย ผู้ต้องหากว่า 300 คน ส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยว เช่น กรุงเทพฯ และปริมณฑล, เชียงใหม่, ภูเก็ต และเกาะสมุย
ทำแบบฟอร์มกลางเป็นแนวทางออกใบรับรอง
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดทำแบบฟอร์มกลาง เพื่อเป็นแนวทางในการออกหนังสือรับรองให้กับผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทาง ตามที่ได้รับการยกเว้นในประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อาทิ แพทย์, พยาบาล, พนักงานที่เข้าเวรกะกลางคืน ซึ่งหากต้องผ่านด่านตรวจ ก็ต้องมีเอกสารรับรอง
โดยสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่ www.royalthaipolice.go.th และ https://saranitet.police.go.th รวมถึงบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อยืนยันตัวบุคคล และหากเป็นกรณีที่มีเหตุผลความจำเป็น ก็จะพิจารณาอนุญาตเป็นรายกรณีไป