วันนี้ (21 เม.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก รมว.สาธารณสุข ส่งสัญญาณบวกการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ใน 32 จังหวัดไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา อาจนำไปสู่การปลดล็อคได้ในระดับหนึ่งของจังหวัดเหล่านี้
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า หากมีสัญญาณที่ชัดเจนและมีประกาศปลดล็อคจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ออกมา ขนส่งทางปกก็พร้อมรับไม้ต่อ โดยในส่วนของการบริการรถโดยสารสาธารณะ กรมขนส่งฯ จะต้องออกประกาศยกเลิกการปิดเส้นทางของรถหมวด 3 (วิ่งระหว่างจังหวัด) ส่วนรถสาธารณะที่วิ่งอยู่ภายในจังหวัด เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถประกาศให้ผู้ประกอบการกลับมาเดินรถได้ตามปกติ
บขส.ชี้หากเปิดเดินรถ พ.ค.นี้ยังต้องคุมโรค
ด้านนายจิรศักดิ์ เยาว์วัชสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. ระบุว่า หากมีประกาศเปิดให้เดินรถโดยสารสาธารณะในแต่ละเส้นทางออกมาอย่างชัดเจนแล้ว บขส.จะพิจารณารายละเอียดเป็นรายจังหวัด หากมีการเดินรถในช่วงเดือน พ.ค.นี้ ก็จะต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค โดยให้พนักงานและผู้โดยสารใส่หน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่างทั้งในสถานีและบนรถ ซึ่งจะทำให้รถโดยสารแต่ละคันมีอัตราบรรทุกอยู่ที่ประมาณ 50%
พร้อมทั้งจะติดตามความต้องการเดินทางของผู้โดยสารในแต่ละเส้นทาง โดยพิจารณาจากยอดอัตราการจองตั๋ว ซึ่งหากสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ได้แล้ว คาดว่าประชาชนจะกลับมาใช้บริการรถโดยสารตามปกติในช่วงเดือน ก.ค. - ส.ค.นี้
สำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการระบาดของเชื้อ COVID-19 ในช่วงเดือน มี.ค.เป็นต้นมา บขส.ได้งดจำหน่ายตั๋วโดยสารใหม่ และให้เดินทางเฉพาะผู้จองตั๋วล่วงหน้าที่ยังค้างอยู่ ทำให้ บขส.สูญเสียรายได้ประมาณ 800 -1,000 ล้านบาทในช่วง 3 เดือน
รฟท.- กรมเจ้าท่า พร้อมให้บริการหากคลายล็อดดาวน์
นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการแทนผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า ในส่วนของ รฟท.จะต้องประเมินสถานการณ์ โดยจะทยอยเปิดในจังหวัดที่ไม่มีความเสี่ยง และรอดูเงื่อนไขหากมีการประกาศปลดล็อก ซึ่งทาง รฟท.ก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม
ทั้งนี้ รฟท.ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัส ทำให้ปัจจุบันมีผู้โดยสารมาใช้บริการ 3,000 - 4,000 คนต่อวัน จากปกติ 20,000 - 30,000 คนต่อวัน ซึ่ง รฟท.จะประเมินความเสียหายเป็นรายไตรมาสและรายปี เพื่อขอให้ภาครัฐช่วยชดเชยเยียวยา
เช่นเดียวกับนายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า กรณีที่รัฐบาลเตรียมผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หรือแผนเปิดเมืองในวันที่ 1 พ.ค.นี้ กรมเจ้าท่ามีความพร้อมที่จะปฏิบัติตาม ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ได้เตรียมความพร้อมทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่และผู้ใช้บริการ โดยเจ้าหน้าที่จะดูแลตรวจตราให้ผู้ใช้บริการต้องสวมหน้ากาก มีเจลล้างมือบริเวณท่าเรือ รวมถึงคุมเข้มมาตรการเว้นระยะห่าง เพราะหากมีการปลดล็อกจะมีผู้มาใช้บริการเรือเป็นจำนวนมาก
ปัจจุบัน กรมเจ้าท่ามีรายงานการใช้บริการขนส่งทางเรือทั้งในกรุงเทพฯ และภูมิภาค อยู่ที่ 30,000 คนต่อวัน ขณะที่การเดินเรือบางแห่งยังสามารถเดินเรือได้ปกติ เช่น การเดินทางจากดอนสักไปสมุย
กพท.เผยหลายสายการบินเตรียมแผนทำการบิน
ด้านนายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กล่าวว่า สำหรับการบินให้บริการเส้นทางภายในประเทศ ที่ผ่านมาสายการบินแต่ละแห่งได้ประกาศหยุดทำการบิน เพราะพื้นที่แต่ละจังหวัดมีการประกาศปิดตามอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด แต่หากมีการปลดล็อคในวันที่ 1 พ.ค.นี้ ผู้ประกอบการสายการบินอาจจะทยอยเปิดทำการบินในเส้นทางที่มีความพร้อม ซึ่งขณะนี้ทราบว่าหลายสายการบินมีแผนที่จะกลับมาทำการบินแล้ว
ส่วนเส้นทางบินระหว่างประเทศที่ยังถูกระงับอยู่ในขณะนี้ ตามนโยบายของศูนย์ COVID-19 และประกาศของ กพท. คงต้องติดตามสถานการณ์ไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อให้มั่นใจว่าสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 มีความปลอดภัยตามแนวทางของนายกรัฐมนตรี เพื่อไม่ให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่กลับมาเพิ่มขึ้นอีก เพราะจะทำให้การแก้ไขปัญหาในช่วงที่ผ่านมาสูญเปล่า ทั้งนี้เห็นว่าสำหรับเส้นทางบินระหว่างประเทศ น่าจะมีการประเมินสถานการณ์ทุก 15 วัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รอลุ้นอังคารหน้า! ต่อ-ไม่ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ศบค.ตีวงค้นหาโรค “กลุ่มแรงงาน” หวั่นซ้ำรอยสิงคโปร์
ธนาคารออมสิน ยืดเวลา "พักชำระหนี้-ดอกเบี้ย" เป็น 6 เดือน