วันนี้(30 เม.ย.63) พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ส่งทหารกองประจำการ สังกัดกองทัพอากาศ ณ ที่ตั้งดอนเมือง ซึ่งได้รับราชการมาครบตามระยะเวลาที่กำหนด และปลดเป็นทหารกองหนุน จำนวน 1,241 คน โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพอากาศร่วมพิธี ทั้งนี้กองทัพอากาศได้จัดรถโดยสารจากกรมขนส่งทหารอากาศรับ-ส่งทหารกองประจำการเหล่านี้กลับภูมิลำเนาด้วย พร้อมทั้งยังได้จัดถุงบรรเทาทุกข์ ซึ่งประกอบด้วยสิ่งของอุปโภคบริโภคที่จำเป็นมอบให้แก่ทหารกองประจำการทุกคน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19
พล.อ.อ.มานัตให้โอวาทแก่ทหารกองประจำการที่เข้าร่วมพิธีว่า ตลอดระยะเวลาที่ทุกคนได้เข้ามารับราชการเป็นทหารกองประจำการในกองทัพอากาศจนครบวาระปลดประจำการ พ้นจากการรับราชการทหารกองประจำการไปเป็นทหารกองหนุน นับว่าเป็นเกียรติประวัติแก่ตนเองที่ได้เสียสละความสุขส่วนตัว เพื่อมารับใช้ประเทศชาติ ซึ่งเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดีที่ทุกคนได้รับการฝึกฝนความมีระเบียบวินัย ความอดทน ความเข้มแข็ง และความสำนึกรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง ตลอดจนได้รับการฝึกวิชาชีพในสาขาต่าง ๆ เพื่อนำความรู้ที่ได้รับไปประกอบอาชีพ
รวมทั้งดำรงตนเป็นพลเมืองที่ดีมีคุณภาพของสังคม ทำให้เกิดความภาคภูมิใจในเกียรติและศักดิ์ศรี พร้อมที่จะปกป้องอธิปไตยของประเทศชาติ แม้ว่าทุกคนจะปลดประจำการไปแล้ว แต่ภาระหน้าที่ของทุกคนจะต้องเป็นทหารกองหนุน โดยพร้อมที่จะกลับมารับใช้ประเทศชาติในยามที่ชาติบ้านเมืองอยู่ในภาวะคับขัน และขอให้ทุกคนจงนำเอาสิ่งที่ดีที่ได้รับจากการเรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและครอบครัว อีกทั้งขอให้ดำเนินชีวิตตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงและเป็นพลเมืองที่มีคุณธรรมของประเทศชาติต่อไป
เลือดของเราชาวกองทัพอากาศคือเลือดสีเทาที่หลอมรวมกันมาเป็นระยะเวลาพอสมควร เราต้องเป็นเพื่อนกัน ต้องรักกัน รักผู้บังคับบัญชา ทุกคนก็จะเป็นมิตรที่ดี เป็นเกียรติประวัติของการเป็นชายไทย หน้าที่สำคัญของลูกผู้ชายคือรักษาสัตย์ตามคำที่ปฏิญาณตนไว้ทั้งหมด